ข่าวน้ำท่วม น้ำท่วม วันนี้ 20 ตุลาคม 65 ที่ไหนบัาง รายงานสถานการณ์น้ำท่วม ล่าสุด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประกาศรายงานคาดการณ์และแจ้งเตือนภัย น้ำท่วมขัง น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม ประจำวันที่ 20 ตุลาคม 2565 เวลา 08.00 น. เช็คเส้นทาง น้ำท่วม วันนี้ มีที่ไหนบ่าง
น้ำท่วมวันนี้ มีที่ไหนบ้าง
รายงานข้อมูลคาดการณ์และแจ้งเตือนภัย ประจำวันที่ 20 ตุลาคม 2565 เวลา 08.00 น.
พื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขังในระยะสั้น
ภาคกลาง
- จ.ประจวบคีรีขันธ์ (อ.บางสะพาน บางสะพานน้อย)
ภาคใต้
- จ.ชุมพร (อ.ปะทิว ท่าแซะ พะโต๊ะ)
- สุราษฎร์ธานี (อ.ท่าชนะ ท่าฉาง วิภาวดี บ้านตาขุน พนม พระแสง)
- นครศรีธรรมราช (อ.ช้างกลาง ลานสกา ทุ่งสง)
- ระนอง (อ.เมืองฯ กะเปอร์ สุขสำราญ)
- พังงา (ทุกอำเภอ) ภูเก็ต (ทุกอำเภอ)
- กระบี่ (อ.เมืองฯ เกาะลันตา)
- ตรัง (อ.เมืองฯ วังวิเศษ สิเกา)
- สตูล (อ.ละงู ควนกาหลง มะนัง ทุ่งหว้า)
พื้นที่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง
ภาคเหนือ
- จ.พิษณุโลก (อ.บางระกำ พรหมพิราม)
- พิจิตร (อ.เมืองฯ สามง่าม บึงนาราง โพทะเล ตะพานหิน โพธิ์ประทับช้าง บางมูลนาก)
- เพชรบูรณ์ (อ.วิเชียรบุรี)
- นครสวรรค์ (อ.เมืองฯ พยุหะคีรี โกรกพระ ชุมแสง ท่าตะโก เก้าเลี้ยว ลาดยาว)
- อุทัยธานี (อ.เมืองฯ หนองขาหย่าง)
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- จ.หนองบัวลำภู (อ.โนนสัง ศรีบุญเรือง)
- ขอนแก่น (อ.เมืองฯ มัญจาคีรี ชนบท น้ำพอง โคกโพธิ์ชัย บ้านไผ่ แวงใหญ่)
- มหาสารคาม (อ.เมืองฯ โกสุมพิสัย กันทรวิชัย เชียงยืน)
- กาฬสินธุ์ (อ.เมืองฯ ยางตลาด ฆ้องชัย ร่องคำ กมลาไสย กุฉินารายณ์)
- ร้อยเอ็ด (อ.จังหาร เชียงขวัญ ทุ่งเขาหลวง โพนทราย พนมไพร เสลภูมิ ธวัชบุรี หนองฮี สุวรรณภูมิ)
- ยโสธร (อ.เมืองฯ มหาชนะชัย ค้อวัง คำเขื่อนแก้ว)
- นครราชสีมา (อ.พิมาย ลำทะเมนชัย สูงเนิน ชุมพวง)
- บุรีรัมย์ (อ.คูเมือง สตึก ลำปลายมาศ) สุรินทร์ (อ.จอมพระ ท่าตูม ชุมพลบุรี รัตนบุรี)
- ศรีสะเกษ (อ.เมืองฯ ราษีไศล กันทรารมย์ ยางชุมน้อย ศิลาลาด)
- อุบลราชธานี (อ.เมืองฯ วารินชำราบ สว่างวีระวงศ์ ดอนมดแดง สำโรง เขื่องใน พิบูลมังสาหาร ตาลสุม สิรินธร)
ภาคกลาง
- จ.ชัยนาท (อ.เมืองฯ วัดสิงห์ มโนรมย์ หันคา สรรพยา หนองมะโมง เนินขาม สรรคบุรี)
- สุพรรณบุรี (อ.เมืองฯ สองพี่น้อง บางปลาม้า) สิงห์บุรี (อ.เมืองฯ อินทร์บุรี พรหมบุรี ท่าช้าง บางระจัน ค่ายบางระจัน)
- ลพบุรี (อ.เมืองฯ บ้านหมี่)
- สระบุรี (อ.หนองโดน บ้านหมอ เสาไห้ ดอนพุด)
- อ่างทอง (อ.เมืองฯ ป่าโมก วิเศษชัยชาญ ไชโย โพธิ์ทอง แสวงหา)
- พระนครศรีอยุธยา (อ.เสนา ผักไห่ บางบาล บางไทร บางปะอิน พระนครศรีอยุธยา บางปะหัน ท่าเรือ นครหลวง มหาราช อุทัย วังน้อย ภาชี บ้านแพรก บางซ้าย)
- นครปฐม (อ.เมืองฯ กำแพงแสน ดอนตูม พุทธมณฑล นครชัยศรี บางเลน)
- นนทบุรี (อ.เมืองฯ ปากเกร็ด บางใหญ่ บางกรวย บางบัวทอง) ปทุมธานี (อ.เมืองฯ สามโคก)
- ฉะเชิงเทรา (อ.พนมสารคาม บางน้ำเปรี้ยว ราชสาส์น คลองเขื่อน)
- นครนายก (อ.องครักษ์) และปราจีนบุรี (อ.เมืองฯ กบินทร์บุรี ศรีมหาโพธิ ประจันตคาม บ้านสร้าง ศรีมโหสถ)
ภาคใต้
- จ.ภูเก็ต (อ.ถลาง)
- กระบี่ (อ.เกาะลันตา)
- ตรัง (อ.เมืองฯ สิเกา)
- สตูล (อ.เมืองฯ มะนัง ละงู ควนกาหลง ทุ่งหว้า ท่าแพ)
- สงขลา (อ.รัตภูมิ)
พื้นที่เฝ้าระวังดินถล่ม
พื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง
ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ ระวังอันตรายจากสัตว์และแมลงมีพิษ อันตรายจากกระแสไฟฟ้า โดยเฉพาะบริเวณน้ำท่วมแนวสายไฟฟ้า เสาไฟฟ้า หรือวัตถุสื่อนำกระแสไฟฟ้าและระวังการขับขี่พาหนะบริเวณน้ำไหลผ่านเส้นทาง รวมถึงควรงดการท่องเที่ยวในพื้นที่ถ้ำที่มีน้ำท่วมขัง และน้ำตกที่น้ำไหลเชี่ยว
ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังดินถล่มให้หลีกเลี่ยงการอยู่อาศัยและทำกิจกรรมบริเวณที่ลาดเชิงเขา
สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรงให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรง ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง นักท่องเที่ยวควรงดเล่นน้ำทะเล ส่วนสิ่งปลูกสร้างที่อยู่บริเวณชายทะเลให้ระวังผลกระทบที่เกิดจากคลื่นที่ซัดเข้าฝั่ง
น้ำท่วมวันนี้ 33 จังหวัด
ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 33 จังหวัด ประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเร่งระบายน้ำ
น้ำท่วมวันนี้ 20 ต.ค. 65 เวลา 11.30 น. ปภ.รายงานจากอิทธิพลของร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ในช่วงวันที่ 16 – 20 ต.ค. 65 ส่งผลให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ 6 จังหวัด 14 อำเภอ 38 ตำบล 172 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,898 ครัวเรือน ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 5 จังหวัด รวม 11 อำเภอ 22 ตำบล 95 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,048 ครัวเรือน ส่วนผลกระทบ จากฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 28 จังหวัด 139 อำเภอ 818 ตำบล 5,381 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 400,731 ครัวเรือน ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ภาพรวมมีแนวโน้มระดับน้ำลดลง ส่วนภาคกลางระดับน้ำยังคงทรงตัวในบางจังหวัด ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานจังหวัดดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องและเร่งระบายน้ำเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ภัย
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิพลของร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักต่อเนื่องและฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยในช่วงวันที่ 16 – 20 ต.ค. 65 ส่งผลให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต พังงา สตูล กระบี่ สงขลา และตรัง รวม 14 อำเภอ 38 ตำบล 172 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,898 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 5 จังหวัด รวม 11 อำเภอ 22 ตำบล 95 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,048 ครัวเรือน ดังนี้
- น้ำท่วมภูเก็ต น้ำท่วมในพื้นที่ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง รวม 1 หมู่บ้าน อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมกระบี่ น้ำท่วมในพื้นที่ตำบลเกาะลันตา อำเภอเกาะลันตา รวม 1 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมสตูล น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอมะนัง อำเภอควนกาหลง อำเภอละงู อำเภอทุ่งหว้า อำเภอท่าแพ และอำเภอเมืองสตูล รวม 15 ตำบล 86 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,918 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมสงขลา น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอรัตภูมิ รวม 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 98 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมตรัง น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง และอำเภอสิเกา รวม 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 31 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
สำหรับผลกระทบจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และอ่าวไทย รวมถึงความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีน ยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ตลอดจนมีการระบายน้ำจากเขื่อนลงแม่น้ำสายหลัก และลำน้ำสาขา ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง โดยช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 20 ต.ค. 65 เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่รวม 59 จังหวัด 333 อำเภอ 1,673 ตำบล 10,271 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 480,787 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 6 ราย ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่รวม 28 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี หนองบัวลำภู อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี ลพบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม นครนายก สระบุรี ปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา รวม 139 อำเภอ 818 ตำบล 5,381 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 400,731 ครัวเรือน แยกเป็น
- น้ำท่วมพิษณุโลก น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางระกำ และอำเภอพรหมพิราม รวม 16 ตำบล 59 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,980 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมพิจิตร น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามง่าม อำเภอบึงนาราง อำเภอเมืองพิจิตร อำเภอตะพานหิน อำเภอโพทะเล อำเภอโพธิ์ประทับช้าง และอำเภอบางมูลนาก รวม 21 ตำบล 256 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,017 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมนครสวรรค์ น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพยุหะคีรี อำเภอโกรกพระ อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอท่าตะโก อำเภอเก้าเลี้ยว อำเภอลาดยาว และอำเภอชุมแสง รวม 34 ตำบล 180 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 26,201 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
- น้ำท่วมขอนแก่น น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองขอนแก่น อำเภอชนบท อำเภอน้ำพอง อำเภอโคกโพธิ์ชัย อำเภอบ้านไผ่ และอำเภอแวงใหญ่ รวม 13 ตำบล 48 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 120 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมมหาสารคาม น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองมหาสารคาม อำเภอกันทรวิชัย อำเภอโกสุมพิสัย และอำเภอเชียงยืน รวม 46 ตำบล 529 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,201 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมกาฬสินธุ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอร่องคำ อำเภอฆ้องชัย อำเภอกมลาไสย อำเภอกุฉินารายณ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ และอำเภอยางตลาด รวม 24 ตำบล 181 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,311 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมร้อยเอ็ด น้ำท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโพนทราย อำเภอจังหาร อำเภอเชียงขวัญ โพธิ์ชัย อำเภอพนมไพร อำเภอเสลภูมิ อำเภอธวัชบุรี อำเภอหนองฮี อำเภอทุ่มเขาหลวง และอำเภอสุวรรณภูมิ รวม 31 ตำบล 140 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,844 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
- น้ำท่วมยโสธร น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอค้อวัง อำเภอคำเขื่อนแก้ว อำเภอเมืองยโสธร และอำเภอมหาชนะชัย รวม 24 ตำบล 141 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 24 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
- น้ำท่วมนครราชสีมา น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอลำทะเมนชัย อำเภอสูงเนิน และอำเภอชุมพวง รวม 11 ตำบล 28 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,195 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมบุรีรัมย์ น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสตึก อำเภอคูเมือง และอำเภอลำปลายมาศ รวม 19 ตำบล 114 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,415 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมสุรินทร์ น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชุมพลบุรี อำเภอท่าตูม และอำเภอรัตนบุรี รวม 20 ตำบล 91 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 20,246 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมศรีสะเกษ น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองศรีสะเกษ อำเภอกันทรารมย์ อำเภอราษีไศล อำเภอยางชุมน้อย และอำเภอศิลาลาด รวม 31 ตำบล 238 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,983 ครัวเรือน อพยพประชาชน 913 ครัวเรือน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 35 จุด มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมอุบลราชธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ อำเภอสว่างวีระวงศ์ อำเภอตาลสุม อำเภอดอนมดแดง อำเภอสำโรง อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอเขื่องใน อำเภอสิรินธร รวม 35 ตำบล 260 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 10,631 ครัวเรือน อพยพประชาชน 281 ชุมชน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 107 จุด ระดับน้ำทรงตัว
- น้ำท่วมหนองบัวลำภู น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโนนสัง และอำเภอศรีบุญเรือง รวม 17 ตำบล 211 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 132 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมอุทัยธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุทัยธานี และอำเภอหนองขาหย่าง รวม 13 ตำบล 60 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,195 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมชัยนาท น้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยนาท อำเภอวัดสิงห์ อำเภอมโนรมย์ อำเภอสรรพยา อำเภอหนองมะโมง อำเภอหันคา อำเภอเนินมะขาม และอำเภอสรรคบุรี รวม 39 ตำบล 271 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 10,933 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
- น้ำท่วมสิงห์บุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี อำเภอท่าช้าง อำเภอพรหมบุรี อำเภอบางระจัน และอำเภอค่ายบางระจัน รวม 24 ตำบล 145 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 18,575 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
- น้ำท่วมอ่างทอง น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอป่าโมก อำเภอไชโย อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอโพธิ์ทอง และอำเภอแสวงหา รวม 46 ตำบล 252 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 13,423 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
- น้ำท่วมพระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมในพื้นที่ 15 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะหัน อำเภอท่าเรือ อำเภอนครหลวง อำเภอมหาราช อำเภออุทัย อำเภอวังน้อย อำเภอภาชี อำเภอบ้านแพรก และอำเภอบางซ้าย รวม 160 ตำบล 1,047 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 78,073 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ระดับน้ำทรงตัว
- น้ำท่วมปทุมธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก รวม 21 ตำบล 62 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,619 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมนนทบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปากเกร็ด อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอบางใหญ่ อำเภอบางกรวย และอำเภอบางบัวทอง รวม 42 ตำบล 271 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 110,056 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมลพบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี และอำเภอบ้านหมี่ รวม 14 ตำบล 63 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,848 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมสุพรรณบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี อำเภอบางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง รวม 43 ตำบล 271 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 26,105 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
- น้ำท่วมนครปฐม น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครปฐม อำเภอกำแพงแสน อำเภอดอนตูม และอำเภอพุทธมณฑล รวม 7 ตำบล 36 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 323 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมนครนายก น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอองครักษ์ รวม 110 ตำบล 94 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,572 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมสระบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหนองโดน อำเภอบ้านหมอ อำเภอเสาไห้ และอำเภอดอนพุด รวม 21 ตำบล 110 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,359 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมปราจีนบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอเมืองปราจีนบุรี อำเภอประจันตคาม อำเภอศรีมหาโพธิ์ อำเภอบ้านสร้าง และอำเภอศรีมโหสถ รวม 21 ตำบล 125 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 12,980 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- น้ำท่วมฉะเชิงเทรา น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพนมสารคาม อำเภอราชสาส์น อำเภอบางน้ำเปรี้ยว และอำเภอคลองเขื่อน รวม 15 ตำบล 98 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,370 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
สำหรับการให้ความช่วยเหลือกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งระบายน้ำท่วมและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับ แจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”
ข้อมูล กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM
——————–
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม.
คลิกเลย >>> TrueID Community <<<