วันที่ 10 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำยม ที่ไหลผ่านจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะอำเภอสามง่าม อำเภอโพธิ์ประทับช้าง ซึ่งเป็นตอนบนและตอนกลางของแม่น้ำยม ระดับน้ำได้ลดระดับลงจนเห็นท้องแม่น้ำเป็นผืนทรายสีขาว และตลอดทั้งลำน้ำแม่น้ำยมปริมาณน้ำผิวดินเหลือไม่เพียงพอ ชาวนาต้องทำการสูบน้ำในแหล่งน้ำบ่อบาดาลใต้ดิน ขึ้นมาเลี้ยงนาข้าวนาปรัง ทดแทนการใช้น้ำจากแม่น้ำยมที่มีปริมาณไม่เพียงพอ
- ราชกิจจาฯ ประกาศกรมการขนส่งทางบก กำหนด “ใบขับขี่” แบบใหม่
- ศาลสั่งจำคุก 54 เดือน หนุ่มโพสต์รูปตัดต่อ ชี้บ่อนทำลาย
- “ซาร่า” เปิดใจทั้งน้ำตา สาเหตุที่ปล่อยมือ “เต้ย” ทั้งที่เป็นคนที่ใช่
ขณะที่ชาวนาในพื้นที่หมู่ 3 บ้านวังเทโพ ตำบลวังจิก อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ต้องนำเอาเครื่องสูบน้ำ ทำการติดตั้งสูบน้ำใต้ดินใจกลางของแม่น้ำยม เพื่อทำการนำน้ำขึ้นไปเลี้ยงต้นข้าวที่เพาะปลูกได้เกือบ 2 เดือน หลังแม่น้ำยมแห้งขอดลง เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวที่ลงทุนปลูกเสียหาย หลังน้ำผิวดินในแม่น้ำยม ได้แห้งขอดลง จนเห็นพื้นทรายกลางแม่น้ำยม
นายสมจิต อยู่ศิลปชัย ชาวนา หมู้ที่ 3 บ้านวังเทโพ ตำบลวังจิก อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า เกษตรกรประสบปัญหาขาดน้ำในการเลี้ยงต้นข้าวเนื่องจากแหล่งน้ำธรรมชาติในแม่น้ำยมแห้งหมด จึงต้องดิ้นรนหาแหล่งน้ำวิธีการที่นำมาใช้ คือ การสูบน้ำจากบ่อบาดาลที่เจาะในท้องแม่น้ำยมที่แห้งขอดเพื่อสูบน้ำขึ้นมาในบ่อพักก่อนที่จะใช้มอเตอร์สูบน้ำจากบ่อขึ้นไปเลี้ยงต้นข้าวเพื่อป้องกันความเสียเสียหายของข้าวที่ลงทุนเพาะปลูกไว้ แต่ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มจากค่าน้ำมันเชื้อเพลิง จากการสูบน้ำใต้ดิน และค่าไฟฟ้าที่สูบน้ำจากบ่อพัก ขึ้นใส่นาข้าว
สำหรับแม่น้ำยมไหลผ่านพื้นที่จังหวัดพิจิตร ระยะทาง 124 กิโลเมตร ผ่าน 4 อำเภอได้แก่ อำเภอสามง่าม โพธิ์ประทับช้าง บึงนารางและโพทะเล ล่าสุดน้ำแม่น้ำยมได้ลดระดับลงอย่างรวดเร็ว เกษตรกรที่เสี่ยงทำนา ยังกังวล นาข้าวที่ทำการเพาะปลูกจะเสียหายจากการขาดน้ำจึงขอวอนส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยระบายน้ำลงสู่แม่น้ำยมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร
เรื่องโดย สายันต์ ชูฉ่ำ | ภาพโดย สายันต์ ชูฉ่ำ