นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมเตรียมลงพื้นที่จังหวัดพิจิตรวันที่ 23 – 24 มีนาคมนี้ เพื่อหารือกลุ่มสหกรณ์ เกษตรกรมะม่วงน้ำดอกไม้ ส้มโอ และพริกซอส ให้ข้อมูลและคำแนะนำการผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐาน เพิ่มช่องทางการทำตลาดในประเทศและต่างประเทศ ผลักดันการขายและจับคู่ธุรกิจให้กับสินค้าที่มีศักยภาพในการส่งออก และเพิ่มแต้มต่อจากการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) โดยนำผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนร่วมลงพื้นที่ อาทิ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมการค้าภายใน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิจิตร หอการค้าแห่งประเทศไทย บริษัท เซ็นทรัลฟู๊ดรีเทล จำกัด (Tops Supermarket) และห้างแม็คโคร บริษัท เลิศ โกลบอล กรุ๊ป จำกัด
นางอรมน กล่าวว่า กรมร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ จัดสัมมนา “ติดอาวุธสหกรณ์ไทย ใช้ประโยชน์ FTAเพิ่มแต้มต่อ สร้างมูลค่าสินค้าเกษตรไทย” และ “ยกระดับสินค้าสหกรณ์ ด้วยมาตรฐานและมูลค่าสู่การค้าเสรี” โดยให้ความรู้เกี่ยวกับการเพิ่มศักยภาพในการผลิตสินค้าให้ได้คุณภาพและมาตรฐาน เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า และพัฒนาสินค้าให้สามารถส่งออก และขายออนไลน์ได้จริง พร้อมหารือกับผู้บริหารภาคเอกชน และ เกษตรกร เพื่อแนะนำการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอเพิ่มแต้มต่อการส่งออกไปต่างประเทศ ปัจจุบันภายใต้ความตกลงการค้าเสรี 14 ฉบับ (รวม RCEP) ที่ไทยจัดทำกับคู่ค้า 18 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เปรู ชิลี อินเดีย ฮ่องกง ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ส่วนใหญ่ได้ลดและยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้าเกษตรส่งออกจากไทยแล้ว
“เชื่อว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ จะช่วยให้สมาชิกสหกรณ์และเกษตรกร ยกระดับคุณภาพการผลิตสินค้าเกษตร เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า สามารถใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอเพื่อเพิ่มแต้มต่อทางการค้าขยายตลาดสู่ต่างประเทศ และสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับสหกรณ์และเกษตรกรไทย” นางอรมน กล่าว