ที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดพิจิตร เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังคงลงพื้นที่เก็บข้อมูลข้อพิพาท วัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน ตำบลบางคลาน อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร เป็นวันที่สอง หลังกลุ่มชาวบ้านได้เข้าร้องเรียนกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้หาแนวทางการช่วยเหลือและคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้นมายาวนานกว่า 7 ปี
ล่าสุดพ.ต.ท.สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บข้อมูลข้อเท็จจริงของกลุ่มชาวบ้าน และทางรักษาการเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ในช่วงเช้าที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร ในช่วงบ่าย เพื่อนำข้อมูลสู่การพิจารณาว่าเข้าข่ายในสำนวนคดีพิเศษหรือไม่
- “กาละแมร์” น้ำตาคลอไลฟ์สด ชีวิตวันที่ไร้บทบาทหน้าจอ ไม่คิดจะได้ยินคำนี้จากคนที่ไม่รู้จักกัน
- “เคเอ็นยู”ขู่ยิงถล่ม-หากส่งข้าวให้เมียนมา
- เศร้า!! “ไบรท์-พิชญทัฬห์” สูญเสียคุณแม่ ด้วยโรคมะเร็ง
พ.ต.ท.สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ กล่าวว่า หลังจากที่เก็บข้อมูลของกลุ่มชาวบ้าน ผู้ร้องเรียน และรักษาการเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน แล้ว โดยได้ข้อสรุปหลักจำนวน 5 ข้อ ที่เกิดขึ้นภายในวัด และจะลงรายละเอียดในแต่ละข้อ ขณะที่ทางผู้ร้องให้ช่วยเหลือในแต่ละข้อ ทางเจ้าหน้าที่แต่ละฝ่ายจะเข้าช่วยเหลือ
ในส่วนเรื่องข้อร้องเรียนในการแต่งตั้งเจ้าอาวาส ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดดพิจิตร ชี้แจงว่า เป็นอำนาจของเจ้าคณะตำบลในการแต่งตั้ง ซึ่งในส่วนรักษาการเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ยังมีภารกิจ ที่ตรวจสอบทรัพย์สินภายในวัดให้แล้วเสร็จ ซึ่งหลังจากจบการตรวจสอบ จะมีการแต่งตั้งหรือไม่ ยังไม่ทราบ ในส่วนการส่งมอบทรัพย์ ทางสำนักงานบังคับคดีจังหวัดพิจิตร ชี้แจงว่าจะมีการส่งมอบทรัพย์สินของทางวัดตามคำสั่งศาล ในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งจะมีการส่งมอบ หรือไม่ต้องรอติดตาม ในส่วนข้อมูลทั้งหมด ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะนำไปพิจารณาต่อ
สำหรับปัญหาความขัดแย้ง เกิดขึ้นตั้งแต่ ปี2557 จนถึงปัจจุบัน จากกรณีที่มติหาเถรสมาคม สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติและศาลจังหวัดพิจิตร มีมติให้อดีตเจ้าอาวาสองค์ก่อนพ้นจากตำแหน่ง และให้พระสงฆ์ระดับเจ้าคณะตำบล มาดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดบางคลาน พร้อมตรวจสอบทรัพย์สินของวัดบางคลาน แต่พบปัญหาการยัดแย้งข้อพิพาทของชาวบ้านกับคณะกรรมการ รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางคลานองค์ปัจจุบันจนเกิดคดี ฟ้องร้อง กันมาต่อเนื่อง กว่า 40 เรื่อง
เรื่องโดย สายันต์ ชูฉ่ำ | ภาพโดย สายันต์ ชูฉ่ำ