เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร่วมกับกองทัพอากาศและกองทัพบก ยังคงมีการจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงกระจายตัวอยู่ทั่วภูมิภาค จำนวน 13 หน่วยปฏิบัติการ ได้แก่ พื้นที่ภาคเหนือ จำนวน 3 หน่วยฯ ภาคกลาง จำนวน 2 หน่วยฯ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 4 หน่วยฯ ภาคตะวันออก จำนวน 1 หน่วยฯ และภาคใต้ จำนวน 3 หน่วยฯ ทั้งนี้ เพื่อให้การปฏิบัติการฝนหลวงเกิดประสิทธิภาพครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนแล้ว แต่ในหลายพื้นที่ ตลอดจนพื้นที่ภาคใต้ ก็ยังคงประสบปัญหาภาวะฝนทิ้งช่วง รวมถึงบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา ก็กำลังเผชิญกับปัญหาภาวะฝนทิ้งช่วงเป็นอย่างมาก อีกทั้ง ในหลายพื้นที่ของประเทศ ณ ขณะนี้ ค่อนข้างที่จะประสบปัญหาในเรื่องของการขาดแคลนน้ำด้วย ซึ่งทางกรมชลประทาน ได้มีการประสานกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในเรื่องการบริหารจัดการน้ำจากเขื่อนภูมิพล เพื่อช่วยเหลือเพิ่มปริมาณน้ำในพื้นที่ประสบปัญหาดังกล่าว และในขณะเดียวกัน กรมฝนหลวงฯ ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และพร้อมวางแผนปฏิบัติการฝนหลวงอย่างเต็มกำลัง เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา และในพื้นที่อื่นๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรอาศัยน้ำฝนแหล่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดยผลจากการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 8 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.ลำพูน เชียงใหม่ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี กาฬสินธุ์ มุกดาหาร นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสระแก้ว เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักในพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อน จำนวน 3 แห่ง อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง จำนวน 6 แห่ง และบึงบอระเพ็ด
นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงเช้าวันนี้ จากผลการตรวจสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ฝนหลวงทั่วประเทศ พบว่า มีบริเวณพื้นที่ภาคเหนือ และภาคใต้ เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง ในเช้าวันนี้จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 3 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ดังนี้
-หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.เชียงใหม่ มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร อ.วังเหนือ เกาะคา จ.ลำปาง และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนกิ่วคอหมา
-หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ตาก มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนภูมิพล และเขื่อนแม่มอก
-หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สงขลา มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.พัทลุง
อย่างไรก็ตาม อีก 10 หน่วยปฏิบัติการ จะยังคงติดตามสภาพอากาศตลอดทั้งวัน หากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงและเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายทันที ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100