‘เลขาฯ-รองเลขาฯป.ป.ช.’ เผย คดีสินบนเหมืองแร่อัคราฯอยู่ระหว่างการไต่สวน-รอฮ่องกงให้ข้อมูลเส้นทางการเงิน ตอนนี้ได้แค่วิเคราะห์สถานการณ์
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) ส่งข้อมูลและหลักฐานที่ได้รับจาก Australian Securities and Investment Commission (ASIC) หรือ ก.ล.ต.ออสเตรเลีย มายังคณะกรรมการ ป.ป.ช.กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ถูกกล่าวหา เรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด หรือให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อให้กลุ่มบริษัท คิงส์เกตฯ ได้ประโยชน์ในการสำรวจและทำเหมืองแร่ในพื้นที่ จ.สระบุรี จ.เพชรบูรณ์ จ.พิจิตร และ จ.พิษณุโลก โดยมิชอบ หรือคดีสินบนเหมืองแร่ทองคำ ว่า เรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการไต่สวน และตรวจสอบเส้นทางการเงิน คณะอนุกรรมการไต่สวนฯยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ
ด้านนายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ที่ผ่านมาสำนักงาน ป.ป.ช.มีการตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาคดีเกี่ยวกับสินบนข้ามชาติขึ้นมา 1 คณะ เพื่อตรวจสอบข้อมูลความเชื่อมโยง การถ่ายเทเงิน หรือการยักย้ายทรัพย์สิน โดยคดีนี้พบว่ามีเส้นทางการเงินค้างอยู่ที่ฮ่องกง โดยสำนักการต่างประเทศของ ป.ป.ช.มีการประสานสำนักงานปราบปรามการทุจริตฮ่องกง (ICC) แล้ว เพื่อขอความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการแล้ว แต่วันนี้ยังไม่ได้รับความร่วมมือส่งรายละเอียดข้อมูลมาเลย
นายนิวัติไชยกล่าวว่า ถ้ายังไม่ได้ข้อมูลจาก ICC เอาแค่ข้อมูลในไทยจะไม่รู้เลยว่ากระแสเงินจากต่างประเทศเข้าบัญชีใครบ้าง ได้แต่วิเคราะห์สถานการณ์ว่าเหตุการณ์ที่กล่าวหาว่าตั้งแต่การขอใบอนุญาต การย้ายบ่อบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น โดย ป.ป.ช.เคยชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่ของรัฐในประเด็นการเปลี่ยนผังโครงการเหมืองโดยมิชอบไปแล้วก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม คดีสินบนเรื่องนี้ ต้องยอมรับว่าเราพยายามอยู่ มีทั้งการเดินทางไปประชุมที่ต่างประเทศที่ผ่านมาด้วย และยังติดต่อประสานงานกันอยู่ เรายังพยายามอยู่ นอกจากนี้ ยังมีหลายเรื่องที่กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ เช่น การดำเนินที่มีการก่อสร้าง รุกล้ำที่ของ ส.ป.ก.หรือไม่อย่างไร อยู่ระหว่างดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายสมเกียรติ ภู่ธงชัยฤทธิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและเหมืองแร่ กับพวก รวมถึงบริษัท อัครา ไมนิ่ง จำกัด และกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท กรณีอนุญาตให้บริษัท อัคราไมนิ่ง จำกัด เปลี่ยนแปลงผังโครงการเหมืองแร่ทองคำชาตรีเหนือโดยมิชอบ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชนดังกล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่