เตือนคนริมน้ำจ.ปทุมธานี-นนทบุรี วันนี้ (10 ต.ค.) น้ำทะเลหนุนสูงสุด ส่งผลระดับน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น พบหลายชุมชนเจอน้ำท่วมขังนานสัปดาห์ ต้องอาศัยอยู่บ้านชั้นสอง วอนขอสะพานไม้เดินเข้าห้องน้ำ หลังต้องพึ่งถุงดำขับถ่ายของเสีย
วันนี้ (10 ต.ค.2564) สถานการณ์น้ำล้นตลิ่งในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยนายสรรเสริญ เรืองฤทธิ์ หัวหน้ากลุ่มงานระบบโทรมาตร สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร รายงานว่าทางทวิตเตอร์ @sunsernr ว่า เช้าวันนี้มีปรากฎการณ์น้ำเกิด น้ำทะเลหนุนสูง จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น (น่าจะสูงสุดในปีนี้) พื้นที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ หรือบริเวณที่แนวคันกั้นน้ำยังไม่สมบูรณ์ อาจได้รับผลกระทบ มีน้ำรั่วซึม ล้นเข้ามาได้เตรียมเฝ้าระวังและตรวจสอบกันด้ว
ภาพ :สรรเสริญ เรืองฤทธิ์
ชาวบ้านปทุมธานี-นนทบุรี กังวลน้ำเจ้าพระยาสูง
ขณะที่ชาวบ้านชุมชนรอบวัดพลับสุทธาวาส ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งอยู่นอกพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีน้ำท่วมกว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว เพราะเป็นที่ลุ่มต่ำ ชาวบ้านกว่า 70 หลังคาเรือนกำลังได้รับผลกระทบ เพราะน้ำเข้าท่วมบ้าน
จากการลงสำรวจพบว่า บ้านส่วนใหญ่เป็นบ้านมีใต้ถุนยกสูง ชาวบ้านจึงอาศัยอยู่ชั้นสอง นายปัญญา แก้วธรรมชาวบ้าน ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี บอกว่า น้ำค่อยๆ ไหลเข้าท่วมบ้าน จึงยกของไว้บนที่สูงได้ทันเวลา ในแต่ละวันต้องคอยประเมินสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หากมีประกาศแจ้งเตือนว่าน้ำจะเพิ่มขึ้น ต้องหาโฟมมารองสิ่งของเพิ่มเติม สิ่งที่ลำบากในขณะนี้คือการใช้ห้องน้ำ เพราะน้ำที่เข้าท่วมทำให้ห้องน้ำไม่สามารถใช้งานได้
ส่วนที่ จ.นนทบุรี ยายอนงค์ บริสุทร์ อายุ 85 ปี ชาวบ้านชุมชนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเก่า ปากคลองอ้อม หมู่ 3 ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี บอกว่า ในบ้านอยู่กัน 11 คน น้ำท่วมสูงต่อเนื่องทุกวัน แม้ทางเทศบาลบางศรีเมือง จะนำกระสอบทรายกั้นน้ำให้ประชาชนในชุมชนแล้ว แต่น้ำไม่มีลด
น้ำเพิ่มทุกวัน แม้ยังพอมีที่นอนเพราะบ้านยกสูงแต่ที่หนัก คือ น้ำท่วมห้องน้ำ ไม่มีห้องน้ำใช้ เวลาปวดท้องหนักต้องปลดทุกใส่ถุงดำมาหลายวันแล้ว สิ่งที่ต้องการตอนนี้ คือขอไม้กระดานมาตอกเป็นสะพานทางเดินเพื่อไปเข้าห้องน้ำในสวน ซึ่งอยู่ไกลจากตัวบ้าน
ขณะที่ ริมน้ำภาคกลางที่นนทบุรี ชาวบ้านกำลังกังวลกับพายุลูกใหม่ที่จะเข้ามาสัปดาห์นี้ เพราะน้ำที่ท่วมตอนนี้ความเดือดยังไม่บรรเทา
กอนช.เตือน 11-16 ต.ค.น้ำหลาก-ดินถล่ม
ขณะที่ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) รายงานว่า จากการประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำจากแผนที่ฝนคาดการณ์ (ONE MAP) ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และพื้นที่เสี่ยง เฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากของกรมทรัพยากรน้ำ และกรมทรัพยากรธรณี พบว่าในช่วงวันที่ 11-16 ต.ค. มีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังอุทกภัย
เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินถล่ม บริเวณจ.สกลนคร อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด และสระแก้ว กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล
เฝ้าระวังระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำ ขนาดใหญ่และขนาดกลาง ที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80%และแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้น กระทบพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำในภาคเหนือ พิษณุโลก ลำปาง สุโขทัย น่าน เพชรบูรณ์ และอุตรดิตถ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชัยภูมิ มหาสารคาม ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ อุดรธานี มุกดาหาร ยโสธร เลย บึงกาฬ นครพนม กาฬสินธุ์ หนองบัวลำภู และสกลนคร
ภาคตะวันออก จ.ระยอง นครนายก ปราจีนบุรี ตราด สระแก้ว จันทบุรี และชลบุรี ภาคกลาง ลพบุรี และสระบุรี ภาตตะวันตก กาญจนบุรี ราชบุรี และประจวบคีรีขันธ์ และภาคใต้ กระบี่ ภูเก็ต ระนอง และสุราษฎร์ธานี
ภาพ:เนติเชาว์ คงแก้ว
เฝ้าระวังระดับน้ำในลำน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นล้นตลิ่ง และท่วมขังบริเวณที่ลุ่มต่ำ ภาคเหนือ บริเวณแม่น้ำน่าน อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร แม่น้ำยม อ.สามง่าม และอ.โพทะเล จ.พิจิตร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณแม่น้ำชี อ.โกสุมพิสัย อ.กันทรวิชัย และอ.เมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม อ.ฆ้องชัย อ.กมลาไสย อ.ยางตลาด อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด อ.เมืองยโสธร และอ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร แม่น้ำมูล อ.ประโคนชัย อ.สตึก และอ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ อ.ชุมพลบุรี อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ อ.เมืองศรีสะเกษ และอ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ และอ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี
ภาคกลาง บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาอ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ อ.เมืองสิงห์บุรีจ.สิงห์บุรี อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง และอ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำป่าสัก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี แม่น้ำลพบุรี อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี แม่น้ำท่าจีน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี และอ.นครชัยศรี จ.นครปฐม และเฝ้าระวังแม่น้ำโขง บริเวณ จ.เชียงราย จนถึง จ.อุบลราชธานี มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงเพิ่มสูงขึ้น