คืบหน้าความพยายามของกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ในการที่จะช่วยแก้ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำและสร้างอาชีพเสริมนอกเหนือจากการทำนาของเกษตรกรในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตร
ล่าสุด วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายไพฑูรย์ แก้วทอง อดีต รมต.แรงงาน ได้ร่วมกันลงพื้นที่พบกับกลุ่มเกษตรกรทำนาแปลงใหญ่ของ อ.ดงเจริญ และกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกไม้ผล มะม่วง มะยงชิด ของ อ.สากเหล็ก โดยมี นายธรรมนูญ แจ่มศรี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดพิจิตร , นายสามารถ เดชบุญ เกษตรจังหวัดพิจิตร , นายเอกฉัตร เอี่ยมตาล ผอ.โครงการชลประทานพิจิตร และข้าราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรอีกหลายหน่วยงาน ร่วมกันรับฟังปัญหาและแนวทางแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรทั้ง 2 กลุ่ม รวมแล้วกว่า 500 คน ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วม-ภัยแล้งในพื้นที่การทำการเกษตรรวมถึงการแก้ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ-ปัจจัยในการผลิตปุ๋ย-ยา-สารเคมี มีราคาสูงขึ้นทำให้ต้นทุนการเกษตรสูงขึ้น
โดย นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ชี้แจงว่า นโยบายของกระทรวงฯ ที่ให้กับเกษตรกรชาวจังหวัดพิจิตร คือ จะส่งเสริมแนะนำชี้ช่องทางให้ทำเกษตรผสมผสานครบวงจร ทำนา-ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์-เลี้ยงสัตว์ เช่นเลี้ยงโค ซึ่งขณะนี้สมาคมผู้เลี้ยงโคได้ประสานมายังกระทรวงเกษตรฯ ว่าจะส่งเสริมและรับซื้อการเลี้ยงโคขุนพันธุ์ลูกผสม Beef Master ขุนให้ได้ขนาดน้ำหนักขนาด 100 กก. รับซื้อการันตีในราคาตัวละ2 หมื่นบาทเศษ
ส่วนเกษตรกรผู้ปลูกไม้ผล มะม่วง-มะยงชิด เพื่อการส่งออกก็จะผลักดันการส่งออกด้วยเครื่องบินให้มีราคาถูกลง รวมถึงขยายตลาดใช้เส้นทางรถไฟ ไทย-จีน อีก 1 ช่องทางด้วย ส่วนการขายภายในประเทศก็จะส่งเสริมให้เกษตรกรขายตรง ส่งตรง ถึงผู้บริโภค ผ่านระบบไปรษณีย์ไทยที่จะขอความร่วมมือให้ราคาการส่งสินค้าถูกลง เพื่อส่งเสริมการค้าขาย โดยต้องเตรียมการก่อน ฤดูกาลผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดในช่วงเดือนมีนาคม ดังนั้นวันนี้จึงต้องลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับเกษตรกรเพื่อพร้อมเดินหน้าก้าวเข้าสู่ยุคการค้าที่ต้องใช้การตลาดนำหน้าการผลิตต่อไป