ขึ้นบัญชีเฝ้าระวัง “ส้มโอไทย” คต.เดินหน้าป้องกันเพื่อนบ้านสวมสิทธิ
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับรายงานจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิจิตร ว่ามีการนำเข้าส้มโอจากประเทศเพื่อนบ้าน มาเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ สวมสิทธิเป็นส้มโอไทยและส่งออกไปยังประเทศจีน โดยใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า หรือ Form E เพื่อขอรับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้น เข้าข่ายการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้า โดยใช้ไทยเป็นฐานการปลอมแปลงถิ่นกำเนิด ส่งผลต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงของส้มโอไทย
นายกีรติ กล่าวว่า เพื่อป้องกันการสวมสิทธิผลไม้ไทย และป้องกันการแอบอ้างถิ่นกำเนิด กรมฯ ได้ดำเนินการเพิ่มสินค้าส้มโอในบัญชีรายการสินค้าเฝ้าระวัง ซึ่งจะทำให้ขั้นตอนในการพิจารณาออกหนังสือรับรองฯ เข้มงวดและรัดกุมยิ่งขึ้น สำหรับประเภทสินค้าส้มโอที่ถูกสวมสิทธินั้น ประกอบด้วย ส้มโอสดหรือแห้ง พิกัดศุลกากร 0805.40 ทั้งนี้ กรมฯ ได้กำหนดแนวปฏิบัติในการออกหนังสือรับรองฯ ทุกประเภท สำหรับสินค้าส้มโอดังกล่าว โดยให้ผู้ยื่นขอหนังสือรับรองฯ ต้องระบุข้อความยืนยันแหล่งที่มาของส้มโอในประเทศที่ขอรับหนังสือรับรองฯ เพิ่มเติมลงในแบบขอรับการตรวจคุณสมบัติของสินค้าทางด้านถิ่นกำเนิดเพื่อขอใช้สิทธิพิเศษทางด้านภาษีศุลกากร (สินค้าพิกัดอัตราศุลกากรตอนที่ 01-24) ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมเป็นต้นไป
“การดำเนินการตามแนวปฏิบัติในการออกหนังสือรับรองฯ ดังกล่าว เป็นการดำเนินงานเชิงรุกในการป้องกันการสวมสิทธิและการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าผลไม้ เพื่อให้ไทยได้รับความเชื่อถือและความมั่นใจจากประเทศคู่ค้าว่าผลไม้ที่ส่งออกจากไทยเป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดไทยจริง และมีมาตรฐาน นอกจากนี้ กรมฯ กำลังเฝ้าระวังสถานการณ์การสวมสิทธิผลไม้ไทยที่ส่งออกไปจีนในภาพรวม และอาจมีการยกระดับกำหนดมาตรการเข้มงวดขึ้น เพื่อป้องปรามการส่งออกในลักษณะแอบอ้างดังกล่าว ในระยะต่อไป” นายกีรติกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากสถิติการส่งออกส้มโอสดและแห้งของไทย ปี 2563 ปริมาณรวม 20,288.10 ตัน มูลค่า 669.67 ล้านบาท ปริมาณลดลง 15.19% แต่มูลค่าเพิ่มขึ้น 30.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่ส่งออกปริมาณรวม 23,922.49 ตัน มูลค่า 513.30 ล้านบาท โดยส่งออกไปยังประเทศ 3 อันดับแรก ได้แก่ จีน 46.9% ฮ่องกง 22.81% และลาว 12.83%
