ตำรวจ บช.ปส. รวบเมีย “เกิดชนะ มีนา” มือขวา “ตี๋ หนูเฉิน” เจ้าของไอซ์ฉาว 1,500 กก. ผบ.ตร. ยัน ไม่มี “บิ๊กตร.”เข้าไปมีเอี่ยว
พุธที่ 7 เมษายน 2564 เวลา 21.30 น.
เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.พร้อม พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดรายสำคัญ 5 คดี จับกุมผู้ต้องหารวมทั้งหมด 13 คน ยึดยาบ้า 8.5 ล้านเม็ด ไอซ์ 271 กก. และเคตามีน 167 กก.
จากการจับกุมดังกล่าวมีคดีที่น่าสนใจดังนี้ คดีแรกตำรวจ บก.ปส.3 จับกุมนาย สุระเสกข์ แซ่เฮ่อ, นายอนุชา แซ่เฮ่อ และ นางปาณิสรา หรือ เจน หรือมยุรี แซ่เฮ่อ พร้อมไอซ์ 100 กก. เคตามีน 100 กก. ได้ที่โกดังไม่มีเลขที่แห่งหนึ่งริมถนนหมู่บ้านวังคล้าย-วังทรายพูน ต.หนองปลาไหล อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร ต่อเนื่อง อาคารพักอาศัย ซอยลาดพร้าว 107 เเขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ หลังสืบทราบว่า ขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มชาติพันธ์ุเผ่าม้งในพื้นที่ อ.พบพระ จ.ตาก จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก ไปพักรอที่โกดังไม่มีเลขที่แห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร โดยใช้รถกระบะต่อเติมเป็นคอกสำหรับขนส่งผลผลิตทางการเกษตร
เจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังเฝ้าจนพบรถกระบะลักษณะดังกล่าว ขับเข้าออกโกดังลักษณะผิดปกติ จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นภายในโกดัง พบนายสุระเสกข์ กับ นายอนุชา กำลังช่วยกันขนไอซ์ และเคคตามีน เข้าไปภายในโกดัง เพื่อบรรจุหีบห่อส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างประเทศ จึงทำการควบคุมตัวพร้อมตรวจยึดของกลาง ก่อนขยายผลจับกุมนางปาณิสรา ผู้สั่งการ ที่มีหมายจับศาลจังหวัดสุโขทัย ในคดียาเสพติดติดตัว และเจ้าตัวยังเป็นภรรยาของนายเกิดชนะ มีนา พ่อค้ายาเสพติดรายสำคัญ ที่เคยหลบหนีคดีไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านก่อนถูกจับกุมส่งตัวมาดำเนินคดีในไทยเมื่อปี 2563 โดยนายเกิดชนะ เป็นผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในเครือข่ายหนูเฉิน และเป็นมือขวาของนายฐปนันท์ ธรรมรัตน์ธาดา หรือ “ตี๋ หนูเฉิน” ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฟอกเงิน และเป็นเจ้าของไอซ์ 1,500 กิโลกรัม ที่ยังคงหลบหนีไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็สั่งการผ่านไลน์ในชื่อ “มาริโอ้” คอยขับเคลื่อนเครือข่ายอยู่ตลอดเวลา
คดีต่อมา ตำรวจ บก.ปส.4 ตรวจยึดไอซ์ 6 กระสอบ 141 กก. เคตามีน 59 ถุง น้ำหนัก 59 กก. ได้บริเวณริมถนนเลียบคลองประปามหาสวัสดิ์ ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังสืบทราบว่า มีกลุ่มนักค้ายาเสพติดภาคกลางลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่กรุงเทพฯ หรือแถวปริมณฑล ไปส่งให้ลูกค้าตามจุดหมาย จึงกระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์กระทั่งพบบรรจุไอซ์และยาเสพติดประเภทอื่นของกลางถูกวางทิ้งไว้ริมถนนเลียบคลองประปามหาสวัสดิ์ ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงยึดไว้นำส่ง พนักงานสอบสวน บก.ปส.4 ขยายผลหาตัวผู้ส่งมาดำเนินคดี
ส่วนอีกคดี ตำรวจ บก.ปส.2 จับกุมนายปรีดา ภูเวียนวงศ์ นายอัธยา นามบุรี นายปิยะวัฒน์ หรือจักรพันธ์ ผูกดวง น.ส.ปาริชาติ รักษา น.ส.นันทิยา ประดู่วงษ์ พร้อมของกลางยาบ้า 8 ล้านเม็ด รถเก๋ง 2 คัน รถตู้ 1 คัน ได้บริเวณทางออกปั๊มน้ำมันริมถนนมิตรภาพ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ต่อเนื่องริมถนนสายชัยภูมิ-สีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา หลังรับแจ้งว่าจะมีการลอบนำยาเสพติดจากชายแดนประเทศลาวเข้ามาฝั่ง จ.นครพนม ตำรวจจึงสะกดรอยตามจนพบรถยนต์ตามที่รับแจ้งเบาะแสะ ขับตามกันมาและหลบเลี่ยงด่านตรวจใน อ.สีคิ้ว จึงเข้าสกัดตรวจค้นก่อนจะพบของกลางดังกล่าว
ด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวด้วยว่าสำหรับคดีเครือข่ายยาเสพติดหนูเฉิน ที่ก่อนหน้านี้มีการพาดพิงเชื่อมโยงถึงตำรวจขั้นผู้ใหญ่ตามคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหาที่ถูกจับก่อนหน้านี้ และอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องนั้น เบื้องต้นไม่พบว่ามีตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยวตามที่ผู้ต้องหาให้การไว้ อีกทั้งตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวเอง ก็ยังมีพฤติกรรมให้การให้การกลับไปกลับมา จึงอยากยืนยันว่า ตำรวจดำเนินการจับกุมเครือข่ายผู้ต้องหาตามหลักฐานมาโดยตลอด ไม่ตัดประเด็นใดทิ้งไปและจะต้องขยายผลสืบสวนสอบสวนต่อ หากใครเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีทุกราย ขอให้ประชาชนสบายใจ.
คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่
-
เห็นด้วย
0%
-
ไม่เห็นด้วย
0%