เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
นครปฐม – ภาคประชาชน รวมพลังหน่วยงานรัฐ องค์กรในจังหวัดนครปฐม ร่วมใจสวมเสื้อเหลืองจัดกิจกรรมการแสดงดนตรี คิดถึงพ่อ สืบสานต่อบทเพลงพระราชนิพนธ์ เพื่อรำลึกและแสดงออกถึงความจงรักภักดี ซึ่งจังหวัดนครปฐมพร้อมเสนอชื่อเพื่อเป็นเมืองสร้างสรรค์ทางดนตรีต่อองค์กร UNESCO
วันนี้ (5 ธ.ค.) ที่ตลาดซอยกลางต้นมะขาม (ถนนประวัติศาสตร์) ซึ่งอยู่ด้านหน้าองค์พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ภาคประชาชนกลุ่มจิตอาสา ได้ร่วมกับหอการค้าจังหวัดนครปฐม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม เทศบาลนครนครปฐม ร่วมกันจัดกิจกรรมการแสดงดนตรีคิดถึงพ่อ สืบสานต่อบทเพลงพระราชนิพนธ์ โดยมีนายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานในพิธี ร่วมด้วยนางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครปฐม นายสุนทร แก้วพิจิตร ประธานสภาเทศบาลนครนครปฐม พ.ท.ดร.สินธพ แก้วพิจิตร (เสธ.แก้ว) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครปฐม นายยุทธนา โพธิวิหค นายอำเภอเมืองนครปฐม หน่วยงานราชการ ภาครัฐและเอกชนที่พร้อมใจกันสวมเสื้อเหลืองเข้าร่วมกิจกรรมโดยพร้อมเพรียง
การจัดงานดังกล่าว ภาคประชาชนในจังหวัดนครปฐมร่วมใจกันกับทุกภาคส่วน ได้จัดงานโดยใช้ชื่อว่า การแสดงดนตรีคิดถึงพ่อ สืบสานต่อบทเพลงพระราชนิพนธ์ เพื่อรำลึกถึงพระมหาหกรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ในด้านอัจฉริยภาพทางดนตรี ซึ่งมีบทประพันธ์เพลงพระราชนิพนธ์ไว้มากมายเพื่อให้พสกนิกรชาวไทยได้สร้างสุข มีขวัญกำลังใจ และเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งจังหวัดนครปฐมได้มีนโยบายการเสนอชื่อเพื่อเป็นเมืองสร้างสรรค์ทางดนตรีต่อองค์กร UNESCO ในปี พ.ศ.2566 ซึ่งสถานที่จัดงานเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดนครปฐมี และประเทศไทยในด้านวัฒนธรรมและประเพณีอันงดงามมาอย่างยาวนาน
ทั้งนี้ ภายในงานได้มีการรวมตัวของนักดนตรีอาชีพและบุคคลในวงการดนตรี ด้านการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยมหิดล และประชาชนที่มีใจรักในเสียงดนตรีได้ร่วมกันนำบทเพลงที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ที่ทรงพระราชนิพนธ์ไว้หลายบทเพลงมาจัดบรรเลงในช่วงเย็นจนถึงค่ำ
โดยมีประชาชนได้รวมพลังแสดงออกถึงความจงรักภักดีในการร้องเพลงชาติ ซึ่งวันนี้นอกจากจะเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพแล้ว ยังเป็นวันพ่อและวันชาติ ซึ่งได้มีการร่วมกันร้องเพลงชาติ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการร่วมกันจุดเทียนสดุดีพระเกียรติคุณและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่นและรอยยิ้มของประชาชนที่เข้ามาร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดีตลอดเวลาที่ได้ร่วมรับฟังบทเพลงพระราชนิพนธ์ต่างๆ ภายในงาน