“บิ๊กตู่” ยกคณะเดินสายนครสวรรค์-พิจิตร เกาะติดการบริหารจัดการน้ำสี่แควโมเดล รวบหัวรวบหางฮุบผลงานโบแดง “สทนช.” โชว์พาวลั่นวางยุทธศาสตร์แก้น้ำทั้งประเทศเองกับมือ แถมตั้ง “บิ๊กป้อม” ไปคุมหัวหาดดูแลแทน เผยทำงานมา 8 ปีจนมีภูมิต้านทาน ชี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้บนซากปรักหักพังของบ้านเมือง ย้ำอย่าให้ประเทศกลับไปแบบเดิม ขณะที่ “ว่าที่ ส.ส.รทสช.” เรียงแถวต้อนรับกันพรึ่บ
เมื่อวันจันทร์ เวลา 09.40 น. ที่สันฝายเก่าบึงบอระเพ็ด ต.หนองปลิง อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางไปตรวจราชการจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมคณะ ประกอบด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษานายกฯ โดยจุดแรกที่นครสวรรค์มีนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานกรรมการในคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) มาให้การต้อนรับด้วย
ทันทีที่นายกฯ มาถึงก็ได้ทักทายคณะรำวงนครสวรรค์ที่มารอต้อนรับ พร้อมระบุว่า “ขอให้ทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ขอให้ทุกคนรักและสามัคคีกัน อย่าขัดแย้ง” ก่อนที่นายกฯ จะถอดหน้ากากอนามัยสูดอากาศและกล่าวว่า “หายใจได้เต็มปอด”
ต่อมานายกฯ เดินเยี่ยมชมนิทรรศการ พร้อมฟังรายงานการบริหารจัดการน้ำบึงบอระเพ็ด ภายใต้แนวคิดสี่แควโมเดล โดยนายกฯ กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือความก้าวหน้าในการพัฒนาที่นี่บึงบอระเพ็ด หลายอย่างเราร่วมมือกันทำมาหลายปีแล้ว ตนก็อยู่กับท่าน (ประชาชน) มาเข้าปีที่ 7 จะ 8 ปีแล้ว เป็นระยะเวลาที่ค่อยๆ ดีขึ้น ค่อยๆ ทยอยดำเนินการ สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้
นายกรัฐมนตรีระบุว่า ตนได้พยายามอย่างยิ่งยวด ในฐานะที่เป็นนายกฯ มาหลายปีแล้ว และเดินหน้าประเทศไม่ใช่เฉพาะที่นี่ มีหลายจังหวัดมีกลุ่มจังหวัด มีความแตกต่าง และปัญหาก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ จากการที่โลกกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย ทุกอย่างกำลังเดินหน้าไปสู่อันตราย แต่นายกฯ ก็ยังยืนยันว่า สิ่งที่ทำมาหลายปีเป็นสิ่งที่ทำมาแล้วต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นเราค่อนข้างมีภูมิต้านทานตรงนี้พอสมควร
“ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ เมื่อเช้ามีปัญหาเรื่องเครื่องบินนิดหน่อย เครื่องไม่สามารถขึ้นได้ หรือจะให้ผมเสี่ยงขึ้นมาเลย ทุกวันนี้พวกผมทำงานด้วยความตั้งใจอยู่แล้ว วันนี้ผมดีใจเห็นรอยยิ้ม เห็นทุกคนมีความสุขมากขึ้นและปลอดภัยจากโควิด-19 นี่คือสิ่งที่หลายคนอาจจะลืมไปแล้ว นี่คือความสำเร็จของพวกเรา ไม่ใช่ผมคนเดียว ผมเป็นผู้นำผู้บริหารกำกับดูแลภายใน ส่วนที่สำเร็จได้เพราะพวกเราให้ความร่วมมือ ทำให้วันนี้เกิดขึ้นมาได้ หลายคนลืมไปว่าเราทำอะไรกันเยอะแล้ว สถานการณ์การเงินการคลังเราก็ได้รับการยอมรับจากองค์กรระหว่างประเทศ นี่คือสิ่งที่เราต้องคำนึงถึง จะให้ใหญ่โตทีเดียวคงเป็นไปไม่ได้ คงต้องแต่งเติมให้แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ นี่คือความคิด ฝากทุกคนช่วยคิดด้วย ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนแปลงได้ท่ามกลางความขัดแย้งหรือซากปรักหักพังของบ้านเมือง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสาเหตุที่นายกฯ เดินทางมาถึงที่สันฝายเก่าบึงบอระเพ็ด ต.หนองปลิง อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ ล่าช้า เนื่องจากเครื่องบิน Airbus A320 ที่จะใช้เดินทางหน้าปัดขึ้นข้อความระบบขัดข้อง จึงทำให้นักบินต้องเช็กอัปเครื่องบิน 20 นาที อย่างไรก็ตามภายหลังตรวจสอบเรียบร้อย แต่เพื่อความปลอดภัยจึงต้องมีการเปลี่ยนเครื่องบินในการตรวจราชการครั้งนี้
เวลา 11.45 น. ที่วัดดงแม่ศรีเมือง พล.อ.ประยุทธ์ติดตามการขับเคลื่อนระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้าในระดับพื้นที่ พร้อมเข้ากราบสักการะหลวงพ่อโต และนมัสการพระครูนิวาสบุญญากร (หลวงพ่อบรรจง ปริปุณฺโณ) เจ้าอาวาสวัดดงแม่ศรีเมือง โดยเจ้าอาวาสได้มอบพระพุทธรูปจำลองพระกำแพงสามขาแก่นายกรัฐมนตรี
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์รับฟังการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร (บึงบอน) และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำบึงบอน อ.บรรพตพิสัย ก่อนกล่าวกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับตอนหนึ่งว่า วันนี้เดินทางมาแต่เช้า แต่เครื่องมีปัญหานิดหน่อย ถ้าบินมาด้วยเครื่องลำนั้นป่านนี้ไม่รู้ไปถึงไหน
พล.อ.ประยุทธ์ยังได้แนะนำทีมงานที่เดินทางมาด้วย คือ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) โดยระบุว่า ตนตั้ง สทนช.ขึ้นมาก็เพื่อบริหารจัดการน้ำ บูรณาการน้ำ เพราะมีหลายหน่วยงานเรื่องน้ำ ซึ่งตนมอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นผู้กำกับดูแลตรงนี้ แต่ทั้งหมดต้องมาที่ตน เพราะตนเป็นผู้อนุมัติในฐานะนายกฯ และนำเข้าพิจารณาในคณะรัฐมนตรี ก็ต้องดูว่าที่ทำขึ้นมารับได้หรือไม่ มีงบประมาณเพียงพอหรือไม่ เราต้องบริหารตรงนี้ให้ได้ตามความเร่งด่วน
พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้แนะนำบรรดา ส.ส.ที่มาให้การต้อนรับ โดยให้ยืนโชว์ตัว พร้อมกระเซ้านายนิโรธ ที่ครั้งแรกไม่ได้ลุกขึ้นยืน โดยระบุว่าไม่ใช่ ส.ส.หรืออย่างไร “ผมไม่รู้หรอกพรรคไหน ผมก็ไม่รู้ แต่ ส.ส.เป็นผู้ที่จะต้องรับฟังความต้องการของประชาชนมา แล้วนำเสนอเข้ามาให้รัฐบาลทราบ ผมไม่ใช่ศัตรูของใคร สุดแล้วแต่ท่านจะเลือกกันอย่างไร แต่ทุกอย่างต้องมีหลักการในการทำงาน ทำไมผมจะเป็นคนที่ไม่รักพวกเรา ผมทำได้ทำไมผมถึงไม่ทำ ขอให้คิดอย่างนี้ มันจะได้เป็นกำลังใจให้กันและกัน ขัดแย้งกันไม่ได้อีกแล้ว เราไม่ต้องการให้ประเทศกลับไปสู่แบบเดิม”
“ใครต้องการแบบเดิมบ้าง อย่าให้เกิดขึ้นอีกเลย ผมไม่พูดอะไรถึงใครหรอก แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพวกเราทั้งนั้น มันมีช่องทางทุกอย่างที่จะแก้ไขปัญหา ไม่ใช่ว่าจะไม่ถูกวิธีแล้วจะวุ่นไปทั้งหมด” จังหวะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ถอนหายใจ พร้อมกับระบุว่า นี่พูดแบบขึ้นรถไฟไปโน้นแทบจะกลับไม่ถูก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ดังกล่าวมีนายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ เขต 3 พรรค พปชร. นายสุรชาติ ศรีบุศกร ส.ส.พิจิตร เขต 3 พรรค พปชร. ซึ่งมีกระแสข่าวเตรียมจะย้ายมาอยู่พรรค รทสช.มาให้การต้อนรับด้วย หลังจากนั้นนายกฯ เดินทางต่อไปยัง รพ.บรรพตพิสัย และ รพ.บึงนาราง จ.พิจิตร เพื่อตรวจเยี่ยมแนวทางการบริหารจัดการสาธารณสุขจนเกิดเป็นรูปธรรม
จากนั้นเวลา 17.45 น. ที่จังหวัดพิจิตร พล.อ.ประยุทธ์เดินทางต่อไปยังตลาดฟื้นอดีตบางมูลนาก อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาบางมูลนากเมืองน่าอยู่ โดยมีประชาชนรอให้การต้อนรับ พร้อมมอบพวงมาลัยและดอกกุหลาบให้กำลังใจ โดย พล.อ.ประยุทธ์เดินทักทายประชาชนอย่างเป็นกันเอง
จากนั้นชมการร้องเพลงฉ่อยจากศิลปินพื้นบ้าน ซึ่งได้อวยพรนายกฯ ว่า ชาวบางมูลนากฝากบอกรักนายกฯ ทุกคน ขอให้เป็นนายกฯ ทุกสมัยและตลอดไป ก่อนที่นายกฯ พร้อมคณะจะมาถ่ายรูปบริเวณริมแม่น้ำน่าน ซึ่งมีบรรดานางรำจากกลุ่มผู้สูงอายุมอบดอกกุหลาบให้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่บางมูลนากเป็นพื้นที่ของนายสุรชาติ ศรีบุศกร ส.ส.พปชร. ซึ่งมีความสนิทสนมกับนายหิมาลัย ผิวพรรณ และมีกระแสข่าวว่าจะย้ายไปอยู่พรรค รทสช. นอกจากนี้ยังมีมาดามนิด หรือนางปุณณรีย์ ศรีบุศกร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร เขต 2 พรรค รทสช.เดินทางมารับด้วย
จากนั้นเวลา 19.00 น. ที่ศาลเจ้าพ่อแก้ว จ.พิจิตร พล.อ.ประยุทธ์เข้ากราบสักการะองค์เจ้าพ่อแก้ว ซึ่งเป็นศูนย์รวมยึดเหนี่ยวจิตใจชาวบางมูลนาก พร้อมพบปะประชาชนที่ส่งเสียงให้กำลังใจลุงตู่สู้ๆ ก่อนเดินทางกลับ โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการลงพื้นที่ในครั้งนี้ว่า “ก็ดี ดีทุกที่ที่ไป”.