วันอาทิตย์ ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2566, 13.11 น.
“บิ๊กตู่” ลั่นยังไม่ยุบสภาฯ ให้เวลา กกต.ทำงานก่อน เผยตื่นเต้นขึ้นปราศรัยใหญ่ครั้งแรก รับต้องระวังไม่ให้เกิดปัญหา มีคนจับจ้องมาก ขณะ “ประดิษฐ์” ไม่กังวล “ประยุทธ์” เยือนพิจิตรพรุ่งนี้ รับแม้เป็นรองแต่เลือกตั้งจะสู้เต็มที่ ชี้นโยบายภูมิใจไทย พูดแล้วทำได้จริง ขณะที่ “ปองพล-ปรพล” เตรียมยื่นใบลาออก “สร้างอนาคตไทย” 30 ม.ค.นี้
เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2566 เวลา 21.20 น. ที่ท่าอากาศยานจังหวัดชุมพร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการโปรดเกล้าฯกฎหมาย 2 ฉบับแล้ว จะยุบสภาเลยหรือไม่ โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า “ยังหรอก ให้เวลาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ทำงานไปก่อน”
ทั้งนี้ที่ลานหน้าเทศบาลจังหวัดชุมพร พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยภายหลังการขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยผู้สื่อข่าวถามถึงความรู้สึกในการลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นอย่างไร พล.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ดีใจ ประชาชนก็น่ารักอยู่ที่ประชาชนนะจ๊ะ ส่วนเวทีต่อไปจะเป็นที่ใดนั้น ทางพรรคจะเป็นผู้เตรียมเอง”
เมื่อถามถึงกระแสขึ้นเวทีครั้งแรก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยอมรับว่ารู้สึกตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน แต่ก็ต้องระมัดระวัง เพราะเราก็มีบทบาทอื่นอยู่ด้วย ก็ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดปัญหาเพราะว่าหลายคนเขาก็จับตาดูพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ก่อนเขาก็ไม่เห็นให้ความสำคัญอะไรเลย แต่วันนี้เขามาจับจ้องเรามากขึ้น ไม่รู้ว่าเพราะอะไร
เมื่อถามว่า ประเมินเวทีแรกอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องให้ทางพรรควิเคราะห์ เพราะมาในฐานะสมาชิกพรรค ต้องให้พรรคเป็นผู้ประเมิน หากจะต้องลงพื้นที่อื่นจะต้องทำอย่างไรต่อไป ในทำนองนี้ ขอบคุณทุกคนอุตส่าห์มา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ เคลื่อนรถออกได้โบกมือทักทายประชาชน และส่งสัญลักษณ์ไอเลิฟยู
‘ประดิษฐ์’ไม่หวั่น! ‘บิ๊กตู่’เยือนพิจิตร รับแม้เป็นรองแต่เลือกตั้งจะสู้เต็มที่
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีต รมช.คลัง และ ส.ส.พิจิตร 4 สมัย ในฐานะผู้สนับสนุนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่วันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะมาตรวจราชการ จ.พิจิตร ว่า ตนคงไม่ได้ไปรับคณะนายกฯ เนื่องจากกำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลภายหลังผ่าตัดต้อตา แต่การไปรับนายกฯ ก็คงมีทีมงานและคนของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ไปรอต้อนรับอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า มองการลงพื้นที่ จ.พิจิตร ของ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไร นายประดิษฐ์ มองว่า ตนเป็นรอง ซึ่งพลังประชารัฐเป็นพรรคเก่าของนายกฯ ที่เป็นแชมป์อยู่ แม้จะไม่ใช่รวมไทยสร้างชาติ ซึ่งมองว่าเขาก็ต้องเป็นต่อ แต่ส่วนตัวไม่มีความกังวลเพราะผ่านการเลือกตั้งมาหลายครั้งแล้ว ฉะนั้น การชิงแชมป์เลือกตั้งสมัยหน้าเราและผู้สมัครก็ต้องทำงานหนัก
เมื่อถามว่า ประเมินการเลือกตั้งครั้งนี้จะล้มแชมป์ได้กี่เขต นายประดิษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่รู้ เพราะเราเป็นผู้ท้าชิงก็ไม่ใช่ง่าย แต่ก็จะพยามทำงานหนักแล้วหวังว่าเมื่อขึ้นชกจะต้องพร้อมสู้เต็มที่เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ซึ่งเราก็ต้องไปบอกประชาชนว่า ถ้าเลือกเราจะได้อะไร ซึ่งเป็นการเมืองที่ต้องเอาไปหาเสียง “จะล้มแชมป์มันก็หนัก ไม่ใช่ง่ายๆ นะ”
เมื่อถามว่า ในฐานะนักการเมืองเก่าในพื้นที่พิจิตร จะมีนโยบายอะไร เพื่อเอาชนะมวยหลักในพื้นที่ได้หรือไม่ นายประดิษฐ์ กล่าวว่า นโยบายต่างๆ มาจากพรรค ซึ่งก็คงจะมีการทำการบ้านมาแล้วว่าจะสามารถขายได้ แต่ต้องอย่าลืมนโยบายทุกพรรคที่แตกต่างกัน แต่ประเด็นสำคัญต้องมาดูว่าเมื่อได้รับเรื่องแล้วสามารถทำนโยบายให้เป็นจริงได้หรือไม่ ซึ่งภูมิใจไทยพูดแล้วทำเห็นได้จากนโยบายกัญชา
เมื่อถามอีกว่า มองการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ วันพรุ่งนี้เป็นการไปหาเสียงหรือตรวจราชการ นายประดิษฐ์ ระบุว่า ตนไม่ทราบ แต่ถ้าใครจะไปก็ไปได้ทุกพรรค มีสิทธิมาหาเสียงที่พิจิตรได้ทั้งนั้น แต่สุดท้ายอยู่ที่ประชาชนเลือก “มาได้เต็มที่ ทำกันอย่างแฟร์ๆ ถึงเวลาคะแนนออกมาค่อยว่ากัน” นายประดิษฐ์ กล่าว และยืนยันว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ตนก็จะสู้อย่างเต็มที่
“ปองพล-ปรพล” เตรียมยื่นใบลาออก “สร้างอนาคตไทย” 30 ม.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังข่าวเกิดการดีลร่วมงานของ พล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กับนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมเปิดตัวในวันที่ 30 ม.ค.ที่พรรคพลังประชารัฐ ล่าสุด นายปองพล อดิเรกสาร อดีตรองนายกรัฐมนตรี สมาชิกพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อม บุตรชาย นายปรพล อดิเรกสาร อดีต ส.ส.สระบุรี 2 สมัย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สระบุรี เขต 1 ได้ตัดสินลาออกจากสมาชิกพรรคสร้างอนาคตไทย โดยที่ขณะนี้ยังไม่ตัดสินใจจะย้ายไปพรรคใด โดยจะไปยื่นลาออกต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ในวันที่ 30 ม.ค.
ทั้งนี้ นายปองพลและนายปรพล เดิมการเลือกตั้งเมื่อปี 62 เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ แต่ต่อมาได้ลาออก เเละ ย้ายมาพรรครวมไทยสร้างชาติ ในช่วงเริ่มต้นตั้งพรรค เเละได้ลาออกอีกครั้ง เพื่อย้ายมาร่วมงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย เมื่อวันที่ 8 ก.ย.65 จนกระทั่ง เกิดการดีลร่วมงาน พรรคสร้างอนาคตไทยกับพรรคพลังประชารัฐ ทำให้นายปองพลและนายปรพล ตัดสินใจลาออก เนื่องจากเกรงจะเกิดปัญหาพื้นที่ทับซ้อนเขตเลือกตั้ง กับ ผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐสระบุรี เขต 1 น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย