ปภ.เผยวาตภัย 45 จังหวัด คลี่คลายแล้ว

เมื่อวันที่ 11 เม.ย. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่างเคลื่อนเข้าสู่บริเวณทะเลอันดามัน ประกอบกับลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมภาคใต้ฝั่งตะวันตกและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางพื้นที่ ในห้วงวันที่ 31 มีนาคม 2564 – ปัจจุบัน (11 เมษายน 2564 เวลา 06.00 น.) ส่งผลให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกในพื้นที่ 45 จังหวัด รวม 152 อำเภอ 365 ตำบล 956 หมู่บ้าน 2 เทศบาลเมือง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 4,938 หลัง วัด 2 แห่ง รวมถึงกรุงเทพมหานคร 1 เขต 1 แขวง ผู้เสียชีวิต 1 ราย (น่าน) ผู้บาดเจ็บ 6 ราย (น่าน 1 ราย สุรินทร์ 4 ราย พิจิตร 1 ราย)

โดยแยกเป็น  ภาคเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ พะเยา แพร่ น่าน ลำปาง ตาก สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ รวม 54 อำเภอ 165 ตำบล 544 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3,285 หลัง ผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้บาดเจ็บ 2 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ นครพนม เลย อุดรธานี สกลนคร หนองบัวลำภู ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร สุรินทร์ มุกดาหาร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และนครราชสีมา รวม 56 อำเภอ 108 ตำบล 196 หมู่บ้าน 1 เทศบาลเมือง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 971 หลัง ผู้บาดเจ็บ 4 ราย

ภาคกลาง 10 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี สระบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร รวม 31 อำเภอ 69 ตำบล 152 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 534 หลัง วัด 2 แห่ง ภาคตะวันออก 6 จังหวัด ได้แก่ ระยอง จันทบุรี สระแก้ว ชลบุรี ปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา รวม 10 อำเภอ 23 ตำบล 64 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 118 หลัง ภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต รวม 1 อำเภอ 1 เขตเทศบาล บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 30 หลัง

ทั้งนี้ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้างหรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม.