หลายพื้นที่ของไทยตอนบน ยังต้องเฝ้าระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรกต่อไปอีก 1 วัน ติดตามในฝนฟ้าอากาศ
เนื่องจากมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางยังคงปกคลุมภาคอีสาน ส่วนลมใต้กับลมตะวันออกเฉียงใต้ ก็พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง ส่วนภาคใต้ฝนเพิ่มขึ้น เพราะลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น พื้นที่ที่จะมีฝนฟ้าคะนองในวันพรุ่งนี้ ได้แก่ ภาคเหนือ บริเวณสุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ และตาก, ภาคกลาง ที่อุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี, ภาคใต้ แถวตอนบนของภาค แถวเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์
สภาพอากาศแต่ละภาค
ภาคเหนือ มีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส และจะมีฝนตก 20 ของพื้นที่
ภาคอีสาน มีฝนตก 20% ของพื้นที่เช่นกัน และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่
ภาคตะวันออก ฝนฟ้าคะนอง 40% ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ ทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน ฝนตก 10-30% ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส และมีฝน 20% ของพื้นที่
ลมพัดแรง หลังคาบ้านเสียหาย จ.ครราชสีมา
ที่ตำบลดงใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา แรงลมทำให้หลังคาบ้านถูกพัดปลิวพังเสียหายไป 8 หลัง รวมทั้งวัด และยุ้งฉางข้าว ทางจังหวัดย้ำเตือนชาวบ้านให้ระวังอันตรายจากพายุลมพัดกระโชกแรงระยะนี้
เตือน 23 อำเภอ เฝ้าระวังพายุฝน จ.ขอนแก่น
ที่ขอนแก่น มีฝนตกติดต่อกันนานกว่า 6 ชั่วโมง แต่ไม่หนักมาก จึงยังไม่มีรายงานความเสียหาย อย่างไรก็ตามเพื่อความไม่ประมาท ทางจังหวัดได้แจ้งเตือน 23 อำเภอ สำรวจความเสียหายและเฝ้าระวังอันตราย ไปจนถึงวันที่ 5 มีนาคมนี้