หนุ่มวัย 48 ปี เจ้าของโรงงานพลุระเบิดจนมีคนตายรวม 5 ศพ มอบตัวแล้วที่ สภ.สากเหล็ก พร้อมเมีย ด้านตำรวจคุมตัวเข้าห้องสอบปากคำผู้ต้องหา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
กรณีเกิดเหตุบ้านร้างที่ลักลอบทำเป็นโรงงานพลุ ระเบิดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา บริเวณบ้านร้าง เลขที่ 84 หมู่ 3 ต.หนองหญ้าไทร อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร จึงรายงานผู้บังคับบัญชา พร้อมรถดับเพลิงจากเทศบาล ต.สากเหล็ก และใกล้เคียงจำนวน 10 คัน ไปดับเพลิงที่กำลังพวยพุ่ง ใช้เวลาดับเพลิงประมาณ 1 ชม.เพลิงจึงสงบ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าที่เกิดเหตุเบื้องต้นบ้านหลังดังกล่าวได้ลักลอบทำพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ(เถื่อน) สำรวจความเสียหายเบื้องต้น ทราบว่ามีผู้เสียชีวิต 5 ศพ และผู้สูญหายเป็นหญิงอายุ 80 ปี มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายคน มีทรัพย์สิน และบ้านเรือนข้างเคียงเสียหาย 7 หลัง ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
สำหรับรายชื่อผู้ที่คาดว่าจะเสียชีวิต มี นายศิวกร พรมวิเศษ อายุ 25 ปี ลูกชายเจ้าของโรงงาน, นายเกรียงไกร ท้าวเจริญ อายุ 31 ปี ชาวบ้านพื้นที่หมู่ 10 ต.พันชาลี อ.วังทอง จ.พิษณุโลก, นายประดิษ มีคำ อายุ 42 ปี ชาวบ้าน หมู่ 10 ต.พันชาลี อ.วังทอง จ.พิษณุโลก และนางสมทรง สุทธิชัง อายุ 33 ปี ชาวบ้าน หมู่ 3 ต.หนองหญ้าไทร อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร
บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของ นายทวีศักดิ์ พรมวิเศษ (เสียชีวิตหลายปีแล้ว) แต่นายประเสริฐ พรมวิเศษ อายุ 48 ปี ชาวบ้าน หมู่ 3 ต.หนองหญ้าไทร อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร เป็นน้องชาย ได้ใช้บ้านดังกล่าวเป็นโรงงานประกอบวัตถุระเบิดขนาดเล็ก หรือบอลไล่นก มานานประมาณ 1 ปี และมีลูกจ้างทำงานอยู่เป็นประจำที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยหลังเกิดเหตุ นายประเสริฐ พรมวิเศษ เจ้าของกิจการได้หลบหนีไป ขณะนี้ตำรวจกำลังติดตามตัวเพื่อมาดำเนินคดีต่อไป
ต่อมา วันที่ 7 ก.พ.64 พล.ต.ต.กำธร จันที ผบก.ภ.พิจิตร ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.พิชิต คงพิทักษ์ ผกก.สภ.สากเหล็ก จ.พิจิตร ว่า เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา นายประเสริฐ พรมวิเศษ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 ม.3 ต.หนองหญ้าไทร อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร และนางชญาดา ท้าวเจริญ อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 2 ม.10 ต.พันชาลี อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้เดินทางมามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.สากเหล็ก โดยมี พ.ต.ท.สมบุญ อิ่มเกิด รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.สุชาติ เรือนวงศ์ รอง ผกก.สืบสวนฯ พ.ต.ท.ประจวบ ชูศรี สว.สอบสวน พ.ต.ต.ธนา พงศ์ตระกูล สว.สืบสวนฯ เป็นผู้รับมอบตัวพร้อมทั้งสอบปากคำผู้ต้องหาเพื่อดำเนินคดีต่อไป.