รองนายกฯวิษณุ ลงพื้นที่อุทัยธานี-นครสวรรค์ ยืนยันนายกฯย้ำให้ลงพื้นที่เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมรับฟังปัญหาจาก ส.ส.ในพื้นที่ด้วย
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พร้อมนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วย นายภิญโญ นิโรจน์ ส.ส.นครสวรรค์ เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ นายวีรกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ นายภูดิท อินทร์สุวรรณ ส.ส.พิจิตร เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ และ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ ส.ส. เขต 1 อุทัยธานี ร่วมลงพื้นที่ จ.อุทัยธานี และ จ.นครสวรรค์ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ และให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ
นายวิษณุเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้ฝากความปรารถนาดีของรัฐบาลมาให้ประชาชนจังหวัดอุทัยธานี และอำเภอพยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ พร้อมนำถุงยังชีพมามอบให้เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น รวมถึงเป็นกำลังใจและต่อสู้อดทนกับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังฝากมายังจังหวัดในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 และปัญหาอุทกภัย ทำอย่างไรให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้หลังสถานการณ์คลี่คลาย
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรียังได้กำชับในที่ประชุม ครม. ให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือกับประชาชน พร้อมกับพบกับ ส.ส.ในพื้นที่ เพื่อให้ได้รับทราบปัญหาในพื้นที่ด้วย
จากนั้นรองนายกรัฐมนตรีและคณะได้ลงพื้นที่ ศาลาประชาคม เทศบาลตำบลหาดทนง อ.เมืองอุทัยธานี โดยมีนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี รายงานสภาพปัญหาอุทกภัยในพื้นที่และการให้ความช่วยเหลือ และมอบถุงยังชีพ ของกองทุนผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ให้แก่ผู้แทนผู้ประสบภัย 13 ตำบล จำนวน 1,000 ชุด และเดินทางไปยังชุมชนบริเวณริมน้ำสะแกกรัง ซึ่งประสบปัญหาน้ำล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย
ในช่วงบ่าย นายวิษณุพร้อมคณะได้เดินทางต่อไปยังพื้นที่ จ.นครสวรรค์ เพื่อติดตามและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ อ.พยุหะคีรี และ อ.โกรกพระ มีนายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ร่วมประชุมหารือสถานการณ์อุทกภัยและการบริหารจัดการในพื้นที่ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย ซึ่งสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ สร้างความเสียหายประมาณ 290,000 ไร่ ทางจังหวัดได้ประกาศเขตการเกิดอุทกภัย 15 อำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 5,000 ครัวเรือน แม้ปัจจุบันสถานการณ์จะคลี่คลายลง แต่ยังมีน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชนบางส่วน และได้เดินทางไปยังพื้นที่ อ.พยุหะคีรี และ อ.โกรกพระ เพื่อพบปะให้กำลังใจประชาชน และมอบถุงยังชีพแก่ผู้แทนผู้ประสบภัยในพื้นที่ จำนวน 1,000 ชุด
นายวิษณุกล่าวกับประชาชนในพื้นที่ว่า นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัย และตนเองในฐานะที่กำกับดูแลเขตตรวจราชการที่ 18 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 ประกอบด้วย จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.นครสวรรค์ และ จ.อุทัยธานี และคณะจึงได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นสิ่งที่รัฐบาลเร่งดำเนินการลำดับแรก เมื่อสถานการณ์คลี่คลายจะเร่งปรับปรุงระบบสาธารณูปโภค และดำเนินการเยียวยาประชาชนและภาคการเกษตรในพื้นที่ต่อไป ซึ่งคาดว่าสถานการณ์ของ จ.อุทัยธานี จะดีขึ้นแน่นอนหากไม่มีพายุเข้ามาอีก
รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้กำลังใจประชาชนให้สู้ต่อไป หากมีปัญหาหรือประสบความเดือดร้อนให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่ใกล้ชิด เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทันที