ที่จังหวัดพิจิตร พบครอบครัวยากจนถึงขั้นบางวันไม่มีแม้ข้าวสารกรอกหม้อ โดยนายสุวรรณ ศรีทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลภูมิ อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ได้ไปพบครอบครัวนี้มี 7 ชีวิต ที่อาศัยอยู่รวมกัน ทั้งหมด อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 57 หมู่ที่ 5 ตำบลภูมิ โดยสภาพบ้านเก่าแก่ ฝาบ้านมุงด้วยสังกะสีผุพัง พื้นไม้เป็นร่องและผุ โดยไม่มีการตอกตะปู
โดยทั้ง 7 ชีวิต ต้องอาศัยนอนในบ้านเดียวกัน และส่วนใหญ่เป็นผู้พิการและเด็ก ทั้งหมดประทังชีวิตด้วยบัตรคนจน มีเพียง 1 คนที่พอจะหารายได้มาจุนเจือครอบครัวได้ นั่นคือนายมณทล ทับจีน อายุ 32 ปี แต่ร่างกายไม่สมบูรณ์เพราะประสบอุบัติเหตุถูกรถชนเดินไม่สะดวก แต่ถือเป็นเสาหลักของครอบครัวออกรับจ้างหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว
- เปิดไทม์ไลน์”พล.ท.สรรเสริญ”พบโยงทหารนักเที่ยวย่านทองหล่อ
- “หนุ่ม กรรชัย” ฝากข้อความโดนใจ ถึงดาราลบภาพ-ปกปิดข้อมูล หลังโควิด-19 ระบาด
- ด่วน !! “นิรุฒ มณีพันธ์” ผู้ว่าฯการรถไฟ ติดเชื้อโควิด-19 กำลังเร่งทำไทม์ไลน์เตือนประชาชน
สำหรับสมาชิกในบ้านหลังนี้มีนายกริ่ม เฉยดิษ อายุ 72 ปี ป่วยด้วยโรคเส้นเลือดบริเวณขาอุดตันและยังประสบอุบัติเหตุรถจักรยานล้ม จนไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ คนที่ 2 นางสมนึก ทับจีน อายุ 66 ปี น้องสาวนายเกริ่ม ป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้อขาอ่อนแรง พอจะเดินได้แต้ต้องใช้เครื่องพยุงแบบ 4 ขาช่วย คนที่ 3 นางสาวขนิษฐา ปั้นตะกั่ว อายุ 29 ปี ลูกสะใภ้นางสมนึก ซึ่งเป็นภรรยานายมณทล แม้จะมีร่างกายแข็งแรง แต่ไม่สามารถออกไปหางานทำได้ เนื่องจากต้องคอยดูแลผู้พิการและเด็ก คือ น.ส.ณภัสสร คำแผง หรือสร อายุ 15 ปี กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด.ญ.ปนัดดา เมืองนา หรืออ้วน กำลังศึกษาในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และด.ญ.จิราพร ทับจีน หรือน้องเอริน อายุ 3 ขวบ เรียนอยู่ที่โรงเรียนเตรียมอนุบาล
อย่างไรก็ดี ทั้ง 7 ชีวิต นอกจากจะอาศัยที่ดินคนอื่นอยู่และบ้านผุพัง หลังคาและผนังรั่วไม่คุ้มฝน เสาบ้านเอนใกล้จะล้ม ในขณะที่พื้นบ้านมีน้ำท่วมขังยามฝนตก โดยเฉพาะนายเกริ่น ต้องอาศัยนอนที่ชานหน้าบ้าน เวลาฝนตกต้องใช้ผ้าใบมาคลุมเพื่อกันฝน ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ประทังชีวิตด้วยการที่นายมณทล ออกไปรับจ้างได้ค่าแรงวันละ 200-300 บาท แต่ไม่ได้มีงานทำทุกวัน ที่เหลือได้ใช้เงินจากบัตรคนจน
ส่วนบัตรผู้พิการ นายเกริ่นเพิ่งทำยังไม่ได้รับเงิน ส่วนนางสมนึก ไปทำบัตรคนพิการ แต่ไม่ผ่านเนื่องจากเจ้าหน้าที่อ้างว่ายังเดินได้ แม้ว่านางสมนึก ต้องใช้ไม้เท้าแบบสี่ขาช่วยพยุงก็ตาม ทำให้ทั้ง 7 ชีวิต อยู่ด้วยความยากลำบาก บางวันไม่มีกับข้าวกิน ต้องใช้วิธีทำน้ำพริกให้เด็กๆได้กินประทังชีวิต
นางสมนึก ทับจีน เปิดเผยว่า ตนเองเป็นโรคขากล้ามเนื้ออ่อนแรง ต้องใช้เครื่องพยุงร่างกายแบบ 4 ขา เวลาเดินบางทีก็ล้ม ส่วนพี่ชายนายกริ่ม เมื่อก่อนรับจ้างเฝ้าและรดน้ำต้นไม้ที่สถานีอนามัย ได้ค่าจ้างเดือนละ 600 บาท แต่หลังจากที่ประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ก็มาอยู่ด้วยกัน โดยชีวิตมีความยากลำบากมาก บางวันมีกิน บางวันไม่มี แม้ข้าวสารกรอกหม้อ บ้านเรือนอยู่กันอย่างแออัด เวลาฝนตกหลังคารั่วก็ต้องหาภาชนะมารองไม่ให้ไหลไปทั่วบ้านจนนอนไม่ได้
ขณะที่นายสุวรรณ ศรีทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 เปิดเผยว่า ตนเองได้พยายามหาทางช่วยเหลือครอบครัวนี้ โดยได้ไปติดต่อทางอำเภอ และเมื่อปลัดอำเภอลงมาดูก็ไม่สามารถให้การช่วยเหลือได้ โดยเฉพาะการปรับปรุงบ้าน เนื่องจากที่อยู่อาศัยของครอบครัวนี้ ไม่ใช่ที่ดินของตนเองซึ่งทางอำเภอต้องใช้โฉนดที่ดินของผู้เดือดร้อนในการของบประมาณมาปรับปรุงบ้าน แต่เบื้องต้นตนเองจะบริจาคไม้ สังกะสี และขอแรงชาวบ้านมาช่วยกันเป็นแรงงาน
ทั้งนี้ หากประชาชนที่พอมีกำลังทรัพย์และต้องการความช่วยเหลือครอบครัวนี้ ในการปรับปรุงบ้านและเพื่อให้คุณภาพชีวิตของเด็กๆพอจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถช่วยบริจาคได้ที่บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาบางมูลนาก ชื่อบัญชีนายสุวรรณ ศรีทอง และนายมณฑล ทับจีน หมายเลขบัญชี 613-0-29567-7
เรื่องโดย สายันต์ ชูฉ่ำ | ภาพโดย สายันต์ ชูฉ่ำ