จังหวัดพิจิตร มีจำนวนผู้สมัครนายก อบจ. 5 คน โดยคาดการณ์ว่าคู่ที่น่าจะเข้าตา และเข้ามานั่งบริหารในองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตรในครั้งนี้นั้น เหลือเพียง 2 ราย
พฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน 2563 เวลา 10.18 น.
หลังจากที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร และคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ทำการรับสมัคร โดยมีผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตรแล้ว จำนวน 5 คน คือ หมายเลข 1 พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ ทีมพัฒนาจังหวัดพิจิตร หมายเลข 2 นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ อดีตนายก อบจ.พิจิตร 6 สมัย ทีมเรารักพิจิตร หมายเลข 3 นายวิเชียร เธียรชัยพงษ์ ทีมศิษย์หลวงพ่อเพชร หมายเลข 4 นายมาโนช วัฒนประสิทธิ์ จากทีมก้าวหน้าพิจิตร และหมายเลข 5 นางพัฒนียา มูลละ ผู้สมัครทีมอิสระ ทำให้ขณะนี้ จังหวัดพิจิตร มีจำนวนผู้สมัครนายก อบจ. 5 คน การจับตาของคอการเมืองท้องถิ่น มองการสู้ศึกชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร โดยคาดการณ์ว่าคู่ที่น่าจะเข้าตา และครองใจประชาชนเข้ามานั่งบริหารในองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตรในครั้งนี้นั้น เหลือเพียง 2 ราย ที่มีการขับเคี่ยว คือ หมายเลข 1 พ.ต.อ. กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ ทีมพัฒนาจังหวัดพิจิตร กับหมายเลข 2 แชมป์เก่า 6 สมัย นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ ทีมเรารักพิจิตร ที่ประชาชนชาวจังหวัดพิจิตร มองว่า เป็นการแย่งชิงขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดของ 2 หมายเลขนี้เป็นหลัก ซึ่งทั้ง 2 หมายเลข ต่างมีนโยบายและแรงสนับสนุนจากประชาชนชาวจังหวัดพิจิตร รวมถึงแรงผลักดันจากอดีตนักการเมืองหลากหลายระดับ ที่ร่วมสนับสนุนตำแหน่งแชมป์ นายก อบจ.เมืองชาละวัน
ฝ่าย พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ หรือ ผู้กำกับ “กบ” ทีมพัฒนาจังหวัดพิจิตร หมายเลข 1 อายุ 59 ปี เป็นบุตรชายของนางวิไลลักษณ์-นายวิรัตน์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดพิจิตร เคยรับราชการตำรวจ เป็น ผกก.สภ.วังทรายพูน ก่อนที่จะลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว และยังมีดีกรีเป็นทายาทตระกูลภัทรประสิทธิ์ ที่มีพี่ชายชื่อ นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ อดีต ส.ส.พิจิตร โดยผู้สมัครรายนี้ได้แรงสนับสนุนจากพี่ชาย และ นางสาวสุณีย์ เหลืองวิจิตร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย รวมถึง นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีต ส.ส.-อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้การสนับสนุน ที่รวมกันแล้วมีฐานเสียงอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยขันอาสาจะเข้ามาล้มแชมป์เก่าให้ได้
มาถึงแชมป์เก่า 6 สมัย หมายเลข 2 อย่าง นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ อายุ 60 ปีเต็มเพียงไม่กี่วัน ในทีมเรารักพิจิตร “พบง่ายใช้คล่องต้อง ชาติชาย” ยังถือว่าเป็นสโลแกนที่ใช้มาตั้งแต่ลงสมัครหลายสมัย และยังคงใช้ได้มาโดยตลอด จากการฟิตซ้อมลงพื้นที่พบปะกับประชาชน แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนมาโดยตลอดในการดำรงตำแหน่ง เรียกได้ว่าเป็นขวัญใจของประชาชน ตั้งแต่วัยรุ่น วัยกลางคน รวมไปถึงผู้สูงอายุ ด้วยความเป็นกันเอง ติดดิน รวมถึงผลงานที่สร้างความเจริญ ทั้งด้านบริหารจัดการน้ำทำการเกษตร บริหารจัดการน้ำท่วม น้ำแล้ง ด้านคมนาคม ด้านสุขภาพ เยาวชน ผู้สูงอายุ การศึกษา รวมถึงผลงานล่าสุดของปีนี้ คือการป้องกันไวรัสโควิด-19 วัด โรงเรียน ปลอดโควิด ทั้ง 12 อำเภอ จนเป็นผลงานที่ประจักษ์ต่อคนพิจิตร
ส่วนผู้สมัครรายอื่นที่เข้าร่วมวงท้าชิง คือ หมายเลข 3 นายวิเชียร เธียรชัยพงษ์ ทีมศิษย์หลวงพ่อเพชร อดีตผู้สมัคร นายก อบจ. เป็นเจ้าของธุรกิจห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ในเขตเทศบาลเมืองพิจิตร ยังคงลงชิงตำแหน่ง โดยมีชาวจังหวัดพิจิตรให้การสนับสนุนอยู่ในระดับหนึ่ง ซึ่งช่วงนี้ผู้สมัครเองนั้นก็พยายามลงพื้นที่หาเสียงชูนโยบายการพัฒนาจังหวัดให้เกิดความเข้มแข็งและพร้อมพัฒนาจังหวัดพิจิตรให้เป็นจังหวัดที่มีความพร้อมในด้านสาธารณูปโภคต่าง ๆ ส่วนหมายเลข 4 นายมาโนช วัฒนประสิทธิ์ จากทีมก้าวหน้าพิจิตร ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร เขตอำเภอทับคล้อ ที่ทางกลุ่มก้าวหน้าได้ร่วมกันผลักดันและสนับสนุนการลงชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในครั้งนี้ ซึ่งก็มีฐานเสียงอยู่ในเขตชุมชนรอบนอกพอสมควร ในการนี้จึงต้องขยันลงพื้นที่หนักเพื่อปักหลักชูนโยบายในด้านต่าง ๆ ให้กับประชาชน และหมายเลข 5 นางพัฒนียา มูลละ ผู้สมัครทีมอิสระ ซึ่งตัดสินใจลงสมัครในครั้งนี้หวังเรียกร้องดึงคะแนนเสียงจากประชาชนคนพิจิตร เน้นการลงพื้นที่หาเสียงพร้อมชูนโยบายในการบริหารแบบโปร่งใส เน้นดูแลประชาชนให้เกิดความผาสุก สร้างความเสมอภาคระหว่างคนทุกชนชั้นในจังหวัดให้มีความเป็นอยู่ที่ดี พร้อมสนับสนุนส่งเสริมอาชีพให้กับผู้มีรายได้น้อย
ท้ายที่สุดใครจะคว้าเก้าอี้ไปครอง 20 ธ.ค.นี้ ประชาชนชาวพิจิตรจะเป็นผู้ตัดสิน!!!
คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่
-
เห็นด้วย
0%
-
ไม่เห็นด้วย
0%