“บิ๊กฮง”สุนทร จารุมนต์ นายกสอยคิว อาการป่วยโควิด เป็นปกติแล้ว รักษาตัว 11 วันกลับบ้านได้แล้วเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา เร็วกว่าอีก 3 จอมคิว แต่ต้องกักตัวและตรวจเชื้ออีก 2 รอบ ถึงจะใช้ชีวิตได้ปกติ ตามด้วย รมย์ สุรินทร์ นักบิลเลียดชื่อดัง รักษาตัว 20 วัน สามารถกลับบ้านได้หลังนายกฯ 1 วัน ส่วน โค้ชต่าย พิจิตร ยังมีฝ้าอยู่ที่ปอด ต้องให้ยา ฟาวิราเวียร์ ต่ออีก 1 โดส และ มาย สากล นักสนุ้กวัย 13 ปี อาการไม่ดีขึ้น เชื้อโควิดลงปอดต้องใช้เวลารักษาตัวอีกหลายวัน ด้าน ต๋อง ศิษย์ฉ่อย กลับมาเดินสายทำบุญช่วยเหลือประชาชนอีกครั้ง พาคุณแม่พลอยรุ้ง แจกทาน ข้าวสาร, ไข่เป็ด และปลากระป๋อง อย่างละ 1000 ในเขตยานนาวา
ความคืบหน้าการรักษาตัวของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของคนในวงการสอยคิวทีมชาติไทย ที่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลทั้ง 4 คน โดยล่าสุด “บิ๊กฮง”สุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ที่ตรวจพบว่าติดโควิด ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.64 และเข้ารับการรักษาตัวทันที่ ที่โรงพยาบาล บีเอ็นเอช ซึ่งใช้เวลา 11 วัน อาการกลับมาเป็นปกติ สามารถกลับบ้านได้ตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยนายสนุทร กล่าวว่า หลังจากผลตรวจเลือด ปอด ออกมาเป็นปกติ ทาง หมอ สามารถให้กลับบ้านได้ ซึ่งต้องกักตัวอีก 7 วัน แล้วถึงจะไปตรวจหาเชื้อ หลังจากนั้นอีก 7 วัน จะต้องตรวจรอบ 2 ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็สามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติ
“อาการของผมถือว่าไม่รุนแรง เพราะเชื้อโควิดไม่ได้ลงปอด จึงทำการรักษาไม่นานเท่าไหร่ ซึ่งหมอบอกว่าผมแข็งแรง ออกกำลังกายทุกวัน ช่วยส่งผลให้ใช้เวลารักษาไม่นาน เมื่อเทียบกับ “รมย์ สุรินทร์” ประพฤติ ชัยธนสกุล นักบิลเลียดทีมชาติไทย ดีกรีเหรียญทองซีเกมส์ หลายสมัย ซึ่งตรวจพบติดเชื้อเมื่อวันที่ 26 เม.ย. เข้ารักษาที่โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา มีอาการเชื้อลงปอด ต้องใช้เวลารักษาจนถึงวันที่ 16 พ.ค.จนอาการเป็นปกติสามารถกลับบ้านได้ ซึ่งใช้เวลารักษา 20 วัน ก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วย เพราะตอนแรกเราเป็นห่วง รมย์ พอสมควร ซึ่งตอนนั้น ผมยังไม่ได้ตรวจพบเชื้อ พอทราบข่าวว่า รมย์ มีเชื้อโควิดลงปอดก็สั่งให้เลขาฯส่วนตัวติดตามอาการของ รมย์ อย่างใกล้ชิด สอบถามอาการจากหมอทุกวัน” สุนทร กล่าว
“บิ๊กฮง”นายกสอยคิวยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้ยังมีโค้ชและนักกีฬาอยู่รักษาตาตัวที่โรงพยาบาลอีก 2 คน คือ “โค้ชต่าย พิจิตร”ชูชาติ ไตยรัตนประดิษฐ์ ซึ่งรักษาตัวที่เดียวกับนักกีฬาทุกคน โดยทราบมาล่าสุดว่า โค้ชต่าย ได้เอกซ์เรย์ปอดครั้งที่ 3 ยังคงมีฝ้าในปอดอยู่ ถึงแม้อาการโดยรวมจะอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่หมอ ยังต้องให้ยาฟาวิราเวียร์เพิ่มอีก 1 โดสเพื่อต้านไวรัส ซึ่งต้องดูอาการอีกอย่างน้อย 5 วันจนกว่าเชื้อจะหายจากปอด แต่อีกคน “มาย สากล”ด.ญ.ปัณชญา ขันทร์น้อย นักสนุกเกอร์หญิงวัย 13 ปี ซึ่งตนติดตามดูอาการของ มาย ตอนนี้ทราบมาว่า ยังมีไข้ เชื้อลงปอด ต้องใช้เวลารักษาสักระยะจนกว่าจะหาย โดยทั้งโค้ชต่าย และ มาย รวมทั้งพ่อ-แม่ ของ มาย ที่ติดเชื้อโควิดด้วย ก็ขอให้หายเป็นปกติในเร็ววันนี้
ด้าน “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย”วัฒนา ภู่โอบอ้อม นักสนุกเกอร์จวัญใจชาวไทย และนักสนุ้กทีมชาติชุดเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ แอนด์ มาเชียลอาร์ต ได้กลับมาบริจาคอาหารแห้งอีกครั้ง หลังจากโควิดระลอกแรกเดินสายทำบุญมากกว่า 40 ครั้ง โดยเมื่อวันที่ 17 พ.ค.นี้ ต๋อง ได้ พาคุณแม่พลอยรุ้ง ไปแจกทาน.ข้าวสาร 1,000 ถุง.ไข่เป็ด.1,000 ถาด, ปลากระป๋อง.1,000 กระป๋อง.มอบให้ ผู้อำนวยการเขตยานนาวา จำนวน 750 ชุด.และแจกที่วัดยานาวา 250 ชุด.
Add friend ที่ @Siamsport
