แม้ว่าบึงสีไฟแหล่งน้ำขนาดใหญ่กลางใจเมืองพิจิตร มีพื้นที่กว่า 5,000 ไร่ จะได้งบประมาณการขุดลอกบึงหลายร้อยล้านบาท แต่เกษตรกรอย่างนายนงค์ จิราพงษ์ อายุ 69 ปี ชาวนาตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองพิจิตร ซึ่งมีพื้นที่อยู่ติดกับบึงสีไฟ ไม่สามารถนำน้ำในบึงสีไฟมาใช้ในการเกษตรได้ เนื่องจากไม่มีการออกแบบสำหรับการใช้เครื่องสูบน้ำ เพื่อดึงน้ำมาทำประโยชน์
- “เบสท์ออมเงิน” มอบตัวนอนคุกรับสารภาพโกงจริง
- เปิดใจทหารเมียนมา เผยชีวิตในกองทัพอันน่าสะพรึง
- โฆษกศาลฯ ปัด ผู้พิพากษาชู3นิ้วหวังให้ศาลเป็นคู่กรณีฝ่ายต่างๆ
นายนง บอกว่า ในอดีตที่ผ่านมา ตนเองต้องลักน้ำในบึงมาทำนา เมื่อมีเจ้าหน้าที่รัฐมาเห็นจะดับเครื่อง ต่อมาตนเองจึงใช้น้ำจากคลองชลประทาน แต่หากเป็นช่วงที่คลองชลประทานหยุดจ่ายน้ำ ต้องมาใช้น้ำใต้ดิน ซึ่งเปลืองค่าใช้จ่ายสูง โดยอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการออกแบบให้สามารถสูบน้ำจากบึงสีไฟมาทำการเกษตรได้ จะช่วยให้เกษตรกร ประหยัดเงินลงทุนและสามารถทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี
สำหรับการขุดลอกบึงสีไฟเพื่อให้กักเก็บน้ำได้ ทางภาครัฐได้เน้นไปที่การกักเก็บน้ำไว้เพื่อลดปัญหาไฟไหม้บึง และเพื่อการท่องเที่ยวของจังหวัด แต่ไม่มีการออกแบบสำหรับการนำน้ำไปใช้ประโยชน์ให้กับเกษตรกรที่อยู่โดยรอบของบึงสีไฟ ซึ่งมีพื้นที่กว่า 2,000 ไร่
เรื่องโดย สายันต์ ชูฉ่ำ | ภาพโดย สายันต์ ชูฉ่ำ