วันนี้ (18 เม.ย.65) พนักงานสอบสวน สภ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ได้นำตัวพระอภิรักษ์ อายุ 75 ปี มาสอบปากคำ หลังมีเจ้าทุกข์ 2 คน มาแจ้งความดำเนินคดีเมื่อวันที่ 13 เม.ย.65 ว่าถูกพระอภิรักษ์หลอกลวงให้โอนเงินค่าทนายความ เป็นเงิน 97,900 บาท และแอบอ้างว่ารู้จักกับรัฐมนตรี หลอกลวงค่าฝากบรรจุให้รับราชการ 103,000 บาท ทำให้ น.ส.อรรจนีย์ อายุ 45 ปี ได้รับเสียหายรวมเป็นเงิน 209,000 บาท และผู้เสียหายอีกคน คือนางทัศนีย์ อายุ 63 ปี ได้ตกลงให้พระอภิรักษ์ จัดหาทนายความคดีแพ่งให้ โดยมอบเงินให้พระอภิรักษ ไปดำเนินการ 163,225 บาท
น.ส.อรรจนีย์ เปิดเผยว่า เมื่อประมาณเดือน ธ.ค.64 ได้เดินทางไปปรึกษากับพระอภิรักษ์ ซึ่งเกี่ยวพันเป็นญาติ มาจําพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งใน ต.แกงแก อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ซึ่งพระอภิรักษ์อ้างตัวเองว่ารู้จักกับรัฐมนตรี สามารถช่วยให้บรรจุเป็นข้าราชการได้ จึงได้มอบเอกสารพร้อมเงินสด 20,000 บาท เป็นค่าดำเนินการ ต่อมาในเดือน ม.ค.65 ได้รับโทรศัพท์จากพระอภิรักษ์ว่า จะต้องจ่ายเงินค่าธรรมเนียมให้กับคณะกรรมการบรรจุ 50,000 บาท โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี นางหนูเดือน ต่อมาวันที่ 17 มี.ค. 65 พระอภิรักษ์แจ้งว่า คณะกรรมการจะประชุมกันจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการรับทุนการศึกษาในระดับปริญญาเอก อีก 33,000 บาท โดยครั้งนี้ได้นำเงินไปมอบให้ที่วัด และต่อมาพระอภิรักษ์แจ้งว่า ตนได้รับการคัดเลือกได้อันดับ 1 ในจํานวน 10 คน แต่จนถึงปัจจุบัน ยังไม่ได้มีความคืบหน้า จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง
ส่วนอีก 1 คดี พระอภิรักษ์ อ้างว่า รู้จักทนายความ สามารถจัดหาทนายความในการฟ้องร้องดำเนินคดีแพ่งได้ จึงได้ตกลงให้พระอภิรักษ์เป็นผู้จัดหาทนายความ และได้มอบเงินค่าทนายความ ค่าธรรมเนียมศาล และค่าดำเนินการอื่นๆ เป็นเงิน 97,900 บาท ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินคดีแต่อย่างใด
เบื้องต้นพระอภิรักษ์ ยอมรับว่าได้หลอกลวงผู้เสียหายทั้ง 2 คน พนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และได้นำตัวพระอภิรักษ์ ไปสึกกับเจ้าคณะอำเภอ เพื่อไม่ให้ใช้ผ้าเหลืองไปหลอกลวงให้คนอื่นอีก นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่า พระอภิรักษ์ เคยก่อเหตุในพื้นที่ภาคเหนือ จ.พิจิตร และจ.อ่างทอง โดยหลอกหลวงตุ้มตุ๋นให้บุคคลหลงเชื่อว่าเป็นพระด็อกเตอร์ จบการศึกษาด้านกฎหมายจากต่างประเทศ เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายให้กับสำนักงานกฎหมายหลายแห่ง รู้จักและสนิทสนมกับผู้หลักผู้ใหญ่หลายคน